ตำรวจมหาชัยทำอะไร…เมื่อรถมอเตอร์ไซค์หาย
ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555
ก่อนที่จะเข้าประเด็นในฉบับนี้ นานๆ จะมีสักครั้งที่มีประสบการณ์ส่วนตัวเกิดขึ้นกับครอบครัวผมเอง และอยากให้เป็นอุทาหรณ์แก่คุณผู้อ่านทุกท่าน โดยเฉพาะเจ้าของยานพาหนะทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์
เมื่อวันก่อน น้องชายผมกับเพื่อนอายุ 20 ต้นๆ หลังเลิกงานก็ไปเล่นเกมส์ในร้านอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่งในซอยนรสิงห์ 3 ใจกลางตลาดมหาชัย แต่พอออกมาจากร้านประมาณสักตีสองครึ่ง ปรากฏว่ารถมอเตอร์ไซค์ได้อันตรธานหายไป
น้องชายเล่าว่า มาถึงที่ร้านเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง เล่นเกมส์ไปสักพักชะเง้อออกมานอกร้านตอนตีสองก็ยังเห็นมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ แต่ครึ่งชั่วโมงต่อมาออกมานอกร้านอีกที มอเตอร์ไซค์ก็หายไปแล้ว
หลังจากที่บ้านทราบข่าวไม่นานนัก ตอนตีสามก็ขับรถไปที่ สภ.เมืองสมุทรสาครเพื่อแจ้งความ ปรากฏว่าสภาพโรงพักไม่ต่างไปจากบ้านร้าง เพราะตำรวจปิดไฟนอนทุกห้อง แม้แต่ห้องวิทยุ มีแต่ห้องทำงานที่เปิดไฟซึ่งมีตำรวจนอนอยู่
บังเอิญตำรวจนายหนึ่งเดินออกจากห้องวิทยุเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ที่บ้านจึงถามว่าจะแจ้งความที่ไหน เขาก็ชี้ไปที่ห้องพักร้อยเวร ซึ่งอยู่เลยห้องรับแจ้งความออกไปสอง-สามห้อง ไปถึงที่ห้องก็พบกับสารวัตรเวรลุกจากเก้าอี้ผ้าใบขึ้นมา
สรุปว่าคืนวันนั้นก็ลงบันทึกประจำวันเรียบร้อย แต่นึกแปลกใจว่า เวลาที่ผู้คนในตลาดมหาชัยต่างหลับใหล คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์กลับหลับตาม แล้วใครจะช่วยตรวจตราระวังภัยให้รู้สึกอุ่นใจ
คืนวันนั้นนอกจากเคสของน้องชายผมและเพื่อนแล้ว ทราบมาว่าที่ซอยบ่อนไก่ ต.ท่าทราย ก็มีรถหายเช่นกัน แล้วเจ้าของรถก็มาที่โรงพักเหมือนกัน แต่กลับต้องนั่งรอในห้องมืดๆ เพราะไฟปิดหมดทุกห้อง หาตำรวจที่รับแจ้งความไม่ได้
เล่าให้ฟังพอหอมปากหอมคอ หวังว่าตำรวจที่นี่เมื่อได้อ่านบทความของผมแล้วคงจะกระตือรือร้นขึ้นมาบ้าง ขออย่างเดียวว่าอย่าทำแบบไฟไหม้ฟาง พอกระแสซาลงไปก็กลับมาทำตัวแบบเดิมอีก
พูดถึงเรื่องนี้ก็อยากจะย้อนไปถึงการจับกุมผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์บ้าง ที่ผ่านมาก็มีการจับกุมไปบ้าง ส่วนใหญ่ได้ร่วมกันออกลักรถมอเตอร์ไซค์มาแล้วกว่า 150 ครั้ง ก่อนจำหน่ายทิ้งและถอดอะไหล่ขาย
พฤติกรรมของผู้ต้องหาเหล่านี้ก็คือ พวกเขาจะออกโจรกรรมรถมอเตอร์ไซค์ในยามค่ำคืน แถบหอพักและห้องเช่าต่างๆ แม้จะล็อคคอที่จอดทิ้งไว้ก็ตามก็ยังหาทางงัดคอรถที่ล็อกไว้ออกมาได้
จากนั้นก็นำไปขายให้บรรดาคนที่รับซื้อคันละ 2,000 บาทขึ้นไป เพื่อชำแหละแยกชิ้นส่วน ส่งขายกลุ่มวัยรุ่นแก๊งซิ่งรถแข่ง รถมอเตอร์ไซค์รุ่นยอดนิยมได้แก่ ยามาฮ่า ฟีโน่ และยามาฮ่า มีโอ ถูกโจรกรรมมากที่สุด
ที่ผ่านมาแม้ตำรวจจะจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว แต่ก็ทราบภายหลังมาว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้รายหนึ่งได้รับการประกันตัวออกไป แล้วยังลอยหน้าลอยตาในสังคมด้วยความช่วยเหลือของพ่อแม่ ซึ่งผมคงไม่ขอขยายความ
นอกจากนี้ ผมยังได้รับคำบอกเล่าจากพลเมืองดีอีกว่า ยังมีลูกหลานผู้มีอิทธิพลบางคน เป็นตัวตั้งตัวตีในการลักรถจักรยานยนต์ และยังเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเหตุอาชญากรรมอีกหลายกรณี แต่ยังมีพ่อแม่ให้ความช่วยเหลืออยู่
ผมคงไม่อยากจะเล่าอะไรมากกว่านี้ เพราะเดี๋ยวจะเข้าตำรา ยิ่งรู้มากยิ่งอันตราย แต่ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณผู้อ่านว่า ไม่มีอะไรที่เราวางใจได้เท่ากับตัวเราเอง เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ระวังตัวเองและคนรอบข้างไปด้วย
ส่วนตำรวจโดยเฉพาะฝ่ายสืบสวน ผมเชื่อว่าท่านคงทำงานได้ลำบาก เพราะยิ่งจับกุมส่งให้เจ้าของคดีแล้ว ยิ่งให้ประกันตัว ยิ่งมีคนในสังคมประเภทพ่อแม่รังแกลูก คนชั่ว แก๊งอันธพาลก็ยิ่งได้ใจ ก่อเหตุเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เรื่อย
ผมสงสัยว่าแล้วเราจะทนอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยแก๊งขโมยขโจรชุกขุมแบบนี้อย่างไร แล้วตำรวจจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกหรือไม่ คงไม่ต้องรอให้กองปราบปรามลงมาตบหน้าตำรวจท้องที่เสียเอง
ก็ฝากความหวังไว้กับสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติจะจัดการกันยังไง เพื่อลงโทษคนชั่วพวกนี้อย่างสาสม.