ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 246 วรรคท้าย บัญญัติให้มีกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด โดยผ่านกระบวนการสรรหา และมีอำนาจหน้าที่ ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ นำมาซึ่งการจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัด ซึ่งก็จัดตั้งครบทั้ง 76 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นได้เปิดบริการรับเรื่องร้องเรียนการทุจริต รับยื่นแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อก่อตั้งสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดแล้ว แต่ยังไม่มีกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด ซึ่งเรียกโดยย่อว่า ป.ป.จ. สำนักงาน ป.ป.ช.ก็จะดำเนินการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.ในแต่ละจังหวัด โดยระยะแรกสรรหาในพื้นที่ 32 จังหวัดก่อน ซึ่งปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีผู้ยื่นสมัครเป็น ป.ป.จ.ถึง 1,183 คน โดยเที่ยวนี้จังหวัดอุบลราชธานีมีผู้สมัคร ป.ป.จ.มากที่สุดถึง 67 คน

ผู้สมัคร 32 จังหวัด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้มีประสบการณ์การทำงานหรือผลงานการรับหรือเคยรับราชการในระดับไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่า จำนวน 757 คน 2.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับในลักษณะที่เป็นประโยชนต่อการส่งเสริมการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต จำนวน 326 คน และ 3.ผู้ซึ่งองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองและปฏิบัติงานต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่าสิบปี จำนวน 100 คน

ในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร จะเริ่มกระบวนการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 โดยเริ่มจากการสรรหาคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. ขึ้นมาคณะหนึ่งก่อนในแต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรในแต่ละจังหวัด รวม 9 คน เพื่อมาทำหน้าที่สรรหากรรมการ ป.ป.จ. จากนั้น นำไปสู่การสรรหากรรมการ ป.ป.จ. โดยสำนักงาน ป.ป.ช. จะประกาศรับสมัครจากบุคคลที่มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

โดยจังหวัดสมุทรสาครมีจำนวนคณะกรรมการ ป.ป.จ. ได้ 3 คน เบื้องต้นสำนักงาน ป.ป.ช.สมุทรสาคร เปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม 2556 ไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสมุทรสาคร (อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถามเพิ่มเติม) จากนั้นคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. จะพิจารณาคัดเลือกไว้เป็นสองเท่า แล้วนำรายชื่อจัดทำบัญชีเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งให้เป็น ป.ป.จ.สมุทรสาครต่อไป

สิ่งที่คนสมุทรสาครควรจับตามองอย่างยิ่งก็คือ การสรรหาคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. ซึ่งจะต้องจับตามองว่าบุคคลที่จะเข้ามาสรรหาตรงนี้มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ที่สำคัญมีสายสัมพันธ์ทางการเมืองหรือไม่ และหลังการเปิดรับสมัครจะมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็น ป.ป.จ.แต่ละคน หากพบว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสมประชาชนสามารถยื่นคำร้องคัดค้านได้ ก่อนที่คณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. พิจารณาคัดเลือก โดยติดตามได้ที่เว็บไซต์เฟซบุ๊ก สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด สมุทรสาคร ซึ่งหากประชาชนและสื่อมวลชนตื่นตัว ช่วยกันตรวจสอบบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมการ ป.ป.จ. ก็จะได้คนดีมีคุณธรรมปราบปรามทุจริตในบ้านเรามากขึ้น

แต่สิ่งที่น่ากังวลและอยากให้คนสมุทรสาครช่วยกันตรวจสอบก็คือ การรับสมัคร ป.ป.จ.สมุทรสาครครั้งนี้ เปิดช่องให้ผู้สมัครสามารถเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ ป.ป.จ. ในจังหวัดใดก็ได้ แต่สมัครได้เพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น เมื่อผ่านกระบวนการสรรหาเรียบร้อยแล้ว จะต้องปฏิบัติงานที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนั้น และมีวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปีนับแต่วันที่รับแต่งตั้ง ซึ่งตรงนี้เราอาจจะเห็นคนนอกพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเข้ามาสมัคร ซึ่งก็ต้องให้เกียรติในการเข้ามาสมัคร แต่ก็ต้องช่วยกันตรวจสอบว่าบุคคลคนนี้น่าเชื่อถือหรือไม่ มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองและธุรกิจหรือไม่ เพื่อให้เขาสามารถเข้ามาส่งเสริมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ทั้งในระดับชาติและในจังหวัดอย่างแท้จริง.