โปรดรับมือถนน-สะพานชำรุด
ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันก่อนอธิบดีกรมทางหลวงชนบท คุณวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ ออกมาเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา กรมทางหลวงชนบทได้เปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนแห่งใหม่ เชื่อมระหว่าง ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว และ ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน โดยใช้ชื่อว่า “สะพานพุทธมณฑลสาคร” เพื่อให้เข้ากับอนุพุทธมณฑลจังหวัดสมุทรสาคร สถานที่ท่องเที่ยวและประกอบพิธีทางศาสนาในพื้นที่ ใช้งบประมาณ 79,950,000 บาท นับเป็นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนแห่งที่ 6
หากย้อนกลับไปในอดีต สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนแห่งแรกในจังหวัดคือ สะพานท่าจีน 1 ที่ ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ ซึ่งมาพร้อมกับถนนพระรามที่ 2 (ธนบุรี-ปากท่อ) เปิดใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2516 ก่อนจะปรับปรุงอีกครั้งเมื่อถนนขยายเป็น 4 ช่องจราจรเมื่อปี 2530 ต่อมากรมโยธาธิการได้ก่อสร้าง สะพานท่าจีน 2 ที่ปลายถนนสุคนธวิท อ.กระทุ่มแบน เชื่อมต่อกับ ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2534
ต่อมากรมโยธาธิการได้ก่อสร้างสะพานท่าจีน 3 บริเวณหน้าวัดบางปลา ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ ข้ามไปยังฝั่งวัดเกาะ ตามมาด้วยสะพานท่าจีน 4 ในซอยวิรุณราษฎร์ เชื่อมระหว่าง ต.ท่าไม้ กับ ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน เปิดใช้เมื่อปี 2542 และสะพานบางยางรุ่งสินพัฒนา ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน เปิดใช้เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 เป็นที่น่าสังเกตว่าในระยะหลังความเจริญของชุมนรวมทั้งเทคโนโลยีในการก่อสร้างทำให้มีสะพานสร้างใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากสะพานพุทธมณฑลสาครแล้ว อีกผลงานหนึ่งของกรมทางหลวงชนบทคือ “ถนนสายใยรัก” หรือถนนสาย ก.ผังเมืองรวมกระทุ่มแบน เป็นทางเลี่ยงเมืองกระทุ่มแบนเชื่อมระหว่างถนนเศรษฐกิจ บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองกระทุ่มแบน ต.คลองมะเดื่อ ไปสิ้นสุดที่หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน ระยะทาง 5.080 กม. จากจุดนี้สามารถเลี้ยวขวาแล้วไปออกถนนสุคนธวิทเพื่อไป อ.บ้านแพ้ว และ อ.สามพราน จ.นครปฐมได้ โดยจะเปิดใช้ในเร็วๆ นี้
มาถึงเรื่องที่อยากจะบอกกล่าวกัน เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ขึ้นสะพานทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร ขาเข้าเมือง ต้องตกใจกับหลุมขนาดใหญ่บริเวณทางลงสะพาน ซึ่งไม่รู้ว่าต้นสายปลายเหตุมาจากไหน แต่ก็ทำเอารถเบรกกันตัวโก่ง ร้อนถึงแขวงการทางสมุทรสาครต้องหาสิ่งกีดขวางมากั้น ก่อนจะเรียกสำนักก่อสร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ซึ่งกำลังสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ ถนนพระรามที่ 2 ที่ ต.บางน้ำจืดมาจัดการซ่อมแซมให้
อันที่จริงเรื่องถนนชำรุดไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถนนพระรามที่ 2 และถนนเศรษฐกิจต้องซ่อมแซมอยู่บ่อยครั้ง แต่อาการชำรุดแบบกะทันหันกระทั่งเป็นโพรงแบบนี้ เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2553 ที่ฝั่งตรงข้ามปั้มบางจากคลองครุ จู่ๆ ถนนยุบตัวเป็นหลุมกว้างในช่องทางด้านขวา ยาว 1 เมตร ลึก 1 ฟุต ทำเอารถที่สัญจรผ่านแล้วตกหลุมเสียหายไป 8 คัน ซึ่งแขวงการทางสมุทรสาครเปิดเผยว่าสาเหตุมาจากใต้พื้นถนนเป็นโพรงกว้าง เพราะน้ำท่วมขังบ่อย ทำให้ดินทรุด
โดยส่วนตัวผู้เขียนมีความเชื่อว่า ถนนและสะพานในจังหวัดสมุทรสาครมีความเสี่ยงที่จะชำรุดอีกมาก นอกจากเป็นเพราะแผ่นดินทรุดตัวเป็นประจำทุกปีแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งคือรถบรรทุกสัตว์น้ำที่ใช้สะพานนี้สัญจรไปมาทุกวัน แล้วปล่อยเมือกปลาไหลลงมาบนถนน นอกจากทำให้ถนนลื่นกระทั่งเกิดอุบัติเหตุแล้ว เมือกปลาที่มีฤทธิ์เป็นด่างยังทำปฏิกิริยากับคอนกรีต ซึ่งสะพานทางแยกต่างระดับสมุทรสาครก็เปิดใช้มานานกว่า 15 ปีแล้ว สภาพหลุมลึกจึงออกมาน่ากลัวเช่นนี้
ก็ขอฝากแขวงการทางสมุทรสาครช่วยสำรวจตรวจสอบความแข็งแรงของถนนและสะพานอีกทางหนึ่ง หากชำรุดให้รีบซ่อมแซม หรือหากซ่อมแซมโดยทันทีไม่ได้ก็ใช้วิธีปิดการจราจรหรือห้ามรถบรรทุกวิ่ง เพื่อรับมือและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝันอีกครั้ง.
(อ่านคอลัมน์วงเวียนน้ำพุย้อนหลัง และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ www.sakhononline.com คลิกที่ คอลัมนิสต์ออนไลน์ เลือก วงเวียนน้ำพุ)