รถติด “พระราม 2” แก้ได้แค่บูรณาการ

ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เมื่อไม่นานมานี้เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อรถบรรทุกซึ่งตัวถังบรรจุกรดกำมะถันเกิดพลิกคว่ำบริเวณถนนพระราม 2 ขาเข้ากรุงเทพฯ หน้าโรงแรมออร์คิดส์ ก่อนถึงถนนสุชัยหรือซอยโรงแก๊ส ทำให้คนขับรถบรรทุกเสียชีวิต ขณะเดียวกันกรดกำมะถันไหลนองพื้นถนนพระราม 2 กัดกร่อนทั้งพื้นผิวการจราจร ทั้งผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์ในที่เกิดเหตุเสียชีวิตไปด้วย นอกจากนี้การนำซากรถบรรทุกออกจากที่เกิดเหตุเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะกรดกำมะถันส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง กว่าจะคลี่คลายสถานการณ์ไปได้ก็ใช้เวลาร่วม 4-5 ชั่วโมง

สิ่งหนึ่งที่น่าคิดตามมาสำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้ คือ การจราจรติดขัดสะสมบนถนนพระราม 2 ขาเข้ากรุงเทพฯ เนื่องจากทุกเย็นวันสุดท้ายของวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นวันอาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ การจราจรจะคับคั่งหนาแน่น โดยเฉพาะจากแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศยอดนิยมอย่างชะอำ หัวหิน หรือแม้แต่อัมพวา กระทั่งติดขัดหากมีเหตุบางอย่างที่เป็นอุปสรรคในการขับรถ เช่น ฝนตกหนัก สมกรรโชกแรง ทัศนวิสัยไม่ดี เกิดอุบัติเหตุ เหตุการณ์นี้ทราบมาว่าการจราจรติดขัดยาวไปถึงจังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากมีฝนตกหนักตามมาอีกด้วย

ถนนพระราม 2 ซึ่งมีอายุยาวนานเกือบ 40 ปี ผ่านการขยายถนนมาก็มาก ตั้งแต่ 4 ช่องจราจร กระทั่งขยัยขยายเป็น 6 ช่องจราจร แต่ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากเมื่อดูสถิติปริมาณการจราจรในช่วงที่ผห่านมา ถนนพระราม 2 ช่วงสมุทรสาครสมุทรสงคราม ถึงทางแยกต่างระดับวังมะนาว จ.ราชบุรี มีปริมาณการจราจรโดยเฉลี่ย 90,000 ถึง 100,000 คันต่อวัน และในช่วงเทศกาลทั้งปีใหม่และสงกรานต์สูงถึง 120,000 คันต่อวันเลยทีเดียว ขณะที่ถนนในช่วงดังกล่าวมีเพียง 6-8 ช่องจราจรเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อปริมาณรถยนต์ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีรถมาก ต้องเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ

ที่ผ่านมาหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมหลายหน่วยงานต่างก็มีเมกะโปรเจ็กต์ อาทิ กรมทางหลวงมีโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายใต้ หมายเลข 8 เชื่อมต่อระหว่างนครปฐม ถึงปากท่อ และปากท่อถึงชะอำ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีโครงการทางพิเศษดาวคะนอง-สมุทรสาคร หรือจะเป็นกรมทางหลวงชนบทที่กำลังสำรวจโครงการถนนเชื่อมระหว่าง จ.สมุทรปราการ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา พาดผ่านย่านสหกรณ์โคกขาม ข้ามแม่น้ำท่าจีน แต่ทุกโครงการที่กล่าวมาเป็นเพียงแผนในกระดาษเท่านั้น ยังไม่ถึงกับลงมือก่อสร้างจริงซึ่งไม่รู้จะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่

ขณะเดียวกัน ลักษณะทางกายภาพของถนนพระราม 2 โดยเฉพาะช่วงสมุทรสงคราม ถึงสมุทรสาคร ไม่มีเส้นทางเลี่ยงสำหรับหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด และที่สำคัญในจังหวัดสมุทรสาครไม่มีทางเลี่ยงเมือง แม้จะอ้างได้ว่าแนวเส้นทางถนนพระราม 2 ไม่ได้ผ่านเข้าไปในตัวเมือง แต่เมื่อเป็นเส้นเลือดใหญ่เวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นมาก็จะกระทบหมดทั้งเส้นทาง อาทิ การชุมนุมปิดถนนบริเวณทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร ส่งผลทำให้การจราจรเป็นอัมพาตลง และหากจะก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองก็ต้องเวนคืนที่ดินซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง และหากความเจริญเข้ามาทำให้รถติดก็จะไม่คุ้มทุน

สิ่งหนึ่งที่น่าจะพอแนะนำได้ คือ ทางจังหวัดสมุทรสาครควรบูรณาการหน่วยงานด้านการจราจร ทั้งกรมทางหลวง แขวงการทางสมุทรสาคร กรมทางหลวงชนบท ตำรวจจราจรและตำรวจทางหลวง ร่วมมือกันแนะนำเส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัด โดยใช้โครงข่ายของทางหลวงชนบทช่วยเสริม ซึ่งมีทั้งถนนเอกชัยสายเก่า (สมุทรสงคราม-สมุทรสาคร) และถนนพระราม 2-วัดสวนส้ม ที่ควรพัฒนาสภาพทางให้มีมาตรฐานเพิ่มขึ้น รวมทั้งการติดตั้งป้ายบอกทางเส้นทางลัด ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เช่น ไป อ.กระทุ่มแบน ไปถนนเพชรเกษม ฯลฯ การประชาสัมพันธ์เส้นทางให้ทราบ ผ่านการแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์เส้นทาง และการให้ตำรวจจราจรและตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกในช่วงวันหยุด

เชื่อว่าวิธีการนี้คงทำได้ไม่ยากถ้าลองศึกษาและเอาจริงเอาจัง เพราะนอกจากจะช่วยแบ่งเบาการจราจรแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทางหลวงชนบทให้คุ้มค่าอีกด้วย



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง