รมว.พลังงาน “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” และคณะ ลงพื้นที่ ต.ท่าจีน จ.สมุทรสาคร ตรวจเยี่ยมคลังน้ำมัน ติดตามสถานการณ์พลังงานช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมพบปะมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย รองปลัดกระทรวงพลังงาน อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ผู้ตรวจราชการฯ ที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน รวมถึงทีม ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกอบด้วย น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3, นายพรชัย ตระกูลวรานนท์, นายสมเกียรติ พรเพียร, นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์, นายวิเชียร ชวลิต และนายสันติ กีระนันทน์
ลงพื้นที่ ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจเยี่ยมคลังน้ำมันสมุทรสาครของบริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด และสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ท่าจีนรุ่งเรืองปิโตรเลียม รวมถึงมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เทศบาลตำบลท่าจีน จำนวน 800 คน โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, นายรังสรรค์ เจียระนัย นายกเทศมนตรีตำบลท่าจีน รวมถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการมารับฟังการดำเนินงานของผู้ประกอบการด้านคลังน้ำมัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมรับฟังปัญหาและอุปสรรค ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ซึ่งคลังน้ำมันสมุทรสาครเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานเชื้อเพลิงรายใหญ่ในจังหวัด ให้บริการด้านการจัดเก็บ จัดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นให้แก่ผู้ค้าน้ำมันรายสำคัญของประเทศ ซึ่งมีศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินมาตรการในการป้องกันอย่างเป็นระบบ
พร้อมกันนี้ ยังได้ติดตามการดำเนินงานและรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่ประสบปัญหาด้านยอดจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงจากสถานการณ์ที่ประชาชนต้อง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” มีการเดินทางน้อยลง รวมถึงมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน อาทิ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ ตนต้องการดูข้อเท็จจริงและสถานการณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับมิติด้านพลังงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ ว่ายังสามารถทำงานและขับเคลื่อนหรือให้บริการกับประชาชนในภาวะวิกฤตโควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพเหมือนสภาวะปกติหรือไม่ โดยใช้ประชาชนเป็นตัวตั้ง ซึ่งหากประสบปัญหา ทางกระทรวงฯ จะได้แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกัน ก็ถือโอกาสนี้เข้าเยี่ยมเยียนและพบปะพี่น้องประชาชนโดยตรงอีกด้วย
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง