กลุ่ม “สมุทรสาครปลดแอก” นัดรวมพลวงเวียนน้ำพุมหาชัย โรงเรียนใกล้เคียงวุ่นต้องเลิกก่อนเวลา สุดท้ายเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมเป็นหน้าศาลจังหวัด ย้ำจุดยืนให้นายกรัฐมนตรีลาออก
วันที่ 30 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจของกลุ่ม “สมุทรสาครปลดแอก” ได้โพสต์ข้อความเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. นัดหมายรวมพลกันที่บริเวณวงเวียนน้ำพุมหาชัย ในเวลา 16.00 น. ซึ่งหลังจากข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไป พบว่าสถานศึกษาหลายแห่งที่อยู่ใกล้เคียง อาทิ โรงเรียนอนุบาลสมุทรสาคร และโรงเรียนสมุทรสาครบูรณะ ได้ประกาศเลิกเรียนก่อนเวลาปกติ และปล่อยนักเรียนกลับบ้านตั้งแต่เวลา 13.00 น. ต่อมาเมื่อเวลา 11.40 น. ทางกลุ่มสมุทรสาครปลดแอก ได้โพสต์ข้อความเปลี่ยนแปลงสถานที่ชุมนุม จากบริเวณวงเวียนน้ำพุมหาชัย มารวมพลที่หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร
ครั้นเมื่อเวลา 16.00 น. กลุ่มมวลชนที่มีทั้งนักเรียน นักศึกษาและประชาชน ได้ทยอยมารวมตัวกันที่บริเวณริมถนนเศรษฐกิจ 1 หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นได้มีนักศึกษารายหนึ่งเป็นแกนนำปราศรัยเพื่อรวมพล ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนมาปักหลักชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับมีการใช้เครื่องขยายเสียง โดยมีนักศึกษาและประชาชนผลัดกันขึ้นปราศรัย เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน มีการชู 3 นิ้วเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร กระจายกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่หน้าศาลจังหวัด และจัดการจราจรบนถนนเศรษฐกิจ 1 ฝั่งขาเข้ากระทุ่มแบนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากมีการจราจรคับคั่งช่วงเวลาเลิกงาน และเป็นจุดจอดรถโดยสารประจำทาง โดยมีการนำกรวยและแผงกั้นจราจรปิดไว้ 1 ช่องจราจร ตั้งแต่หัวมุมตัดกับถนนราษฎร์บรรจบจนถึงหน้าทางเข้าศาลากลางจังหวัดฯ
ต่อมา พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รักษาการ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม เนื่องจากเป็นการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมาตรา 10, 14 และ 21 ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และผิดกฏหมายตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 116, 215 และ 216 รวมถึง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2535 แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงชุมนุมต่อไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น กระทั่งเมื่อเวลา 19.20 น. แกนนำจึงประกาศยุติการชุมนุม และขอให้ทุกคนแยกย้ายกันกลับไป
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง