แกนนำคณะก้าวหน้า “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ” ปราศรัยใหญ่ย่านอ้อมน้อย หาเสียงช่วย “อวยชัย จาตุรพันธ์” ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร ตึงเครียดมวลชนปกป้องสถาบันฯ แห่ค้านไม่ให้ทั้ง 3 คนขึ้นเวที เปิดหนักแผ่นดินสนั่น
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ หรือช่อ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมปราศรัยรณรงค์หาเสียงให้กับ นายอวยชัย จาตุรพันธ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร หมายเลข 4 และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรสาคร ในชื่องาน “สมุทรสาครต้อง Change ถึงเวลาต้องเปลี่ยน” ที่ทิวลิป สแควร์ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนนายธนาธรฯ และอดีตพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมารับฟังการปราศรัยประมาณ 500 คน
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันที่ 20 ธ.ค. มีความสำคัญไม่ใช่แค่วันเลือกตั้ง เพราะว่างบประมาณ 880 ล้านบาทต่อปี ที่มาจากภาษีประชาชน อยู่ในมือของ อบจ.สมุทรสาคร 8 ปีที่ผ่านมา ไม่มีเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร แม้จะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน แต่ก็ได้รับการต่ออายุจากมาตรา 44 ของ คสช. ซึ่งระยะเวลา 8 ปี คิดเป็นงบประมาณรวมกว่า 10,000 ล้านบาท ถูกนำไปใช้โดยไม่เห็นหัวประชาชน แต่กลับไปรับใช้เผด็จการ ทำให้ทุกคนจนลง ดังนั้น 20 ธ.ค. นี้ เป็นวันที่เจ้าของภาษีประชาชนต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร ว่าจะให้ใครบริหารภาษี 880 ล้านบาทต่อปี จะเอาคนเก่าเล่นการเมืองแบบเก่า หรือนายอวยชัยฯ และคณะก้าวหน้า
ทางด้าน นายปิยบุตร ก็ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า คณะก้าวหน้าก่อตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ในเรื่องต่าง ๆ ที่ผลักดันสมัยพรรคอนาคตใหม่ หนึ่งในนั้นคือการกระจายอำนาจ ยุติราชการรวมศูนย์ ทวงคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยเล็งเห็นว่าศักยภาพของแต่ละจังหวัดมีมาก แต่ไม่มีทรัพยากร อำนาจ งบประมาณ และโอกาสในการตัดสินใจที่จะบริหารจัดการจังหวัด โดยคณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครนายก อบจ. และ ส.อบจ. ใน 42 จังหวัด ภายใต้นโยบายกรอบใหญ่ร่วมกัน
ปิดท้ายด้วยนายธนาธร กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า วันนี้คณะก้าวหน้ามารณรงค์ให้นายอวยชัย จาตุรพันธ์ ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร และผู้สมัคร ส.อบจ.สมุทรสาคร ทั้ง 27 เขตเลือกตั้ง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว การเมืองท้องถิ่นเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การเมืองระดับชาติ เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและเกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต
ที่คณะก้าวหน้ามาทำการเมืองท้องถิ่น เพื่อรณรงค์ให้พ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศเข้าใจถึงความสำคัญของการเมืองท้องถิ่น จึงส่งผู้สมัคร 42 จังหวัดทั่วประเทศ มีทั้งผู้สมัครนายก อบจ. และ ส.อบจ. รวมกว่า 1,000 คน เป็นความทะเยอทะยานทางการเมืองที่สำคัญอย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งนายอวยชัย และผู้สมัคร ส.อบจ. ของคณะก้าวหน้ามีความตั้งใจ มีวิสัยทัศน์ และเชื่อว่าสมุทรสาครจะดีกว่านี้ได้ ทั้งนี้ การปราศรัยของคณะก้าวหน้า สมุทรสาคร จบลงเมื่อเวลา 22.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าการปราศรัยจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อเวลา 17.45 น. มวลชนในนามกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯ (ศปปส.) และกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน ส่วนใหญ่แต่งกายในชุดเสื้อสีเหลือง พร้อมป้ายข้อความประท้วง และธงชาติไทย เคลื่อนขบวนมาปักหลักบริเวณ ถ.เพชรเกษม ฝั่งตรงข้ามทิวลิป สแควร์ เพื่อแสดงจุดยืนไม่ให้แกนนำคณะก้าวหน้าทั้ง 3 คนขึ้นเวทีปราศรัย โดยประกาศว่าหากไม่ทำตามที่เรียกร้อง มวลชนทั้งหมดก็จะย้ายข้ามฝั่งมาแล้วจะบุกเข้าไปที่เวทีปราศรัย
โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยมีการใช้เครื่องขยายเสียงเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” และกล่าวปราศรัยบนรถแห่ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน คอยเฝ้าระวังสถานการณ์ ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ที่มีกำหนดจะขึ้นเวทีปราศรัยเป็นคนแรก ต้องเปลี่ยนแผนมาเฟซบุ๊กไลฟ์ผ่านเพจของคณะก้าวหน้า ที่ริม ถ.เพชรเกษม ฝั่งตรงข้ามกันเพื่อบรรยายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังได้สอบถามไปยังรอง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ที่มาควบคุมสถานการณ์ด้วย โดยขอให้มีการตรวจสอบกลุ่มผู้ชุมนุมฝั่งตรงข้ามเกี่ยวกับเรื่องของการขออนุญาตชุมนุม การขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง และการใช้วาจาเชิงข่มขู่ ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่
ซึ่งนายจักรพงษ์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่ม ศปปส. เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการรวมตัวกันของทั้งสองกลุ่ม ประมาณ 100 คน เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เอาบุคคลที่จาบจ้วงสถาบันฯ และจ้องจะทำลายประเทศไทย มาขึ้นเวทีปราศรัยยุยงปลุกปั่นประชาชน โดยไม่ได้มีเจตนามาก่อกวนผู้สมัครฯ แต่อย่างใด โดยมวลชนกลุ่มดังกล่าวปักหลักกันจนถึงเวลา 19.55 น. จึงเคลื่อนขบวนออกไปจากบริเวณดังกล่าว โดยไม่มีเหตุกระทบกระทั่งกันใด ๆ
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง