รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ชี้ยอดขึ้นลงตามจริงไม่ปิดบังตัวเลข พร้อมนำทีมมอบถุงยังชีพสภากาชาดไทย ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ม.ค. 64 ที่วัดทองธรรมมิการาม ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร สภากาชาดไทย นำสิ่งของชุดถุงยังชีพของสภากาชาดไทย ไปมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในเขตพื้นที่ตำบลท่าทราย จำนวน 76 ราย มีทั้งเป็นกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และกลุ่มเปราะบาง โดยถุงยังชีพประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่สามารถดำรงชีพได้ประมาณ 1 สัปดาห์
โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร นายณภัทร์ เอมอ่อน นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นางนวพร วิเศษวงษา รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ รวมถึงทีมงานกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมแจกถุงยังชีพในเบื้องต้นให้กับผู้ได้รับผลกระทบฯ ในพื้นที่หมู่ 6 และหมู่ 7 ต.ท่าทราย ส่วนหมู่บ้านอื่น ๆ นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะทยอยลงไปมอบให้ครบทุกราย
นายธีรพัฒน์ เปิดเผยว่า สำหรับตัวเลขที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นและลดลงในแต่ละวันนั้น ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังข้อมูลแต่อย่างใด ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเป็นการตรวจเชิงรุกในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีโอกาสเจอหรือไม่เจอผู้ติดเชื้อก็เป็นไปได้ ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ มีแนวทางว่าถ้าจุดไหนเจอผู้ติดเชื้อมากกว่า 10% ก็จะสุ่มตรวจทั้งหมดเพื่อนำมาแยกกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลสนาม
“จากการพูดคุยกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ เราคิดว่าตัวเลขตอนนี้น่าจะดีขึ้น แต่ว่าเรายังไว้วางใจไม่ได้ เพราะว่าเราอาจจะพบในกลุ่มไหนอีกหรือไม่จากการสุ่มตรวจ เพราะว่าตอนนี้เรายังสุ่มตรวจอยู่ทุกวัน วันละประมาณ 2,000 คน เมื่อเราตรวจแล้วผลตรวจจากห้องแล็บฯ จะได้ในอีก 2 วัน เพราะฉะนั้นตัวเลขจะขึ้นหรือลงก็สุดแท้แต่ว่าจะเจอผลหรือไม่ แต่เบาใจได้ว่าถ้าเจอผู้ติดเชื้อแล้วจะนำเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาครทันที” นายธีรพัฒน์ กล่าว
ส่วนทางด้านของตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาครนั้น หลังจากในวันที่ 22 ม.ค. นี้ จะมีการตรวจเชิงรุกอีกครั้ง ในกลุ่มคนที่ไม่ติดเชื้อ (กลุ่มสีขาว) ประมาณ 1,200 ราย ผู้ที่พบเชื้อก็แยกออกมากักตัวในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติร่วมกับผู้ที่ผ่านการกักตัวครบแล้ว และหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในวันที่ 25 ม.ค. จะมีการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ จากนั้นในวันที่ 26 หรือ 27 ม.ค. ก็จะเปิดตลาดกลางกุ้งฯ ให้กลับมาค้าขายได้ตามปกติอย่างแน่นอน
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง