หนูผิดอะไร? แฉโรงเรียนดังใน อ.กระทุ่มแบน ขู่ฟันอาญานักเรียนที่เป็นแกนนำประท้วงผู้บริหาร หลังพบไม่โปร่งใสหลายเรื่อง บางคนบอกโดนขู่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พบก่อนหน้านี้เรียกไปฟังชี้แจง แต่ส่งคนอื่นมาพูดไม่เคลียร์ แถมอ้างเหตุ ม.6 น้อยใจ จบรุ่นนี้จะพาไปเที่ยวทะเล ผอ.เคยจ้อนักข่าว บอก “ผมถูกกลั่นแกล้ง” เพราะบางคนไม่ชอบขี้หน้า
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า มีคณะครูและนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ร้องเรียนว่าผู้บริหารโรงเรียนบริหารงานไม่สุจริต ไม่โปร่งใส ทำให้มีการชุมนุมประท้วงของนักเรียนหลายร้อยคนเป็นเวลาหลายวันแล้ว แต่พบว่ามีการข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีอาญากับนักเรียนที่เป็นแกนนำ บางคนมาร้องไห้แล้วพูดว่า “หนูแค่ออกมาพูดความจริง หนูต้องการให้ฝ่ายบริหารชี้แจง ว่าทำไมทุกอย่างแพงขึ้น บ้านหนูไม่ได้ร่ำรวย หนูผิดอะไรทำไมจะแจ้งความจับพวกหนู” ซึ่งหากดำเนินคดีจริง จะออกมาช่วยเหลือ ขออย่าเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ
นายษิทรา ได้ระบุความไม่โปร่งใสของโรงเรียนดังกล่าว อาทิ 1. เก็บเงินนักเรียนค่าเข้าค่ายลูกเสือ ม.3 คนละ 250 บาท ส่วน ม.1 และ ม.2 เข้าค่ายที่โรงเรียน แต่เมื่อก่อนนักเรียน ม.1 ม.2 ม.3 เข้าค่ายลูกเสือต่างจังหวัดตลอดแต่ไม่เคยเสียเงิน 2. เก็บเงินนักเรียน ม.1 ม.4 ค่าเข้าค่ายคุณธรรม คนละ 400 บาท โดยแจ้งว่าโรงเรียนออกให้ 400 บาท นักเรียนต้องออกเอง 400 บาท รวม 800 บาท แต่ตอนหลังคืนเงินนักเรียน 50 บาท เพราะมีผู้ปกครองโวยวาย จึงคืนให้ด้วยเหตุผลว่า ตอนแรกจะเอาไปทำประกันชีวิตหมู่ เนื่องจากประกันชีวิตที่นักเรียนทำตอนเปิดเทอมยังใช้ไม่ได้ แต่พอถึงวันไปเข้าค่ายประกันคุ้มครองแล้ว จึงคืนเงิน ไม่ต้องทำประกันหมู่
3. ประกันชีวิตเคยเสียปีละ 100 บาท แต่ครั้งนี้เก็บคนละ 300 บาท ใครได้ประโยชน์ 4. ค่าอุปกรณ์การเรียนของนักเรียนคนละ 210 บาท โรงเรียนเป็นผู้ซื้ออุปกรณ์ให้ เมื่อซื้ออุปกรณ์มาแจกนักเรียน อุปกรณ์ที่ได้รับคิดแล้วราคาไม่ถึง 120 บาท 5. เก็บเงินค่าข้าวนักเรียน ม.1 ม.4 ที่เรียนปรับพื้นฐานมื้อละ 30 บาท 10 วัน 300 บาท แต่ให้ครูและแม่บ้านเป็นคนทำกับข้าว โดนสั่งว่าห้ามทำเกินหัวละ 20 บาท 6. ค่าเทอมแพงมาก ค่าชุดพละก็แพง ค่าชุดนักเรียนก็แพง ค่ากระเป๋าก็แพง กำไรไปไหนเพราะไม่เคยเอาเงินสนับสนุนให้นักเรียนไปแข่งที่ไหนเลย
7.มีเงินจ้างคนขับรถคนใหม่ แต่คนเก่าก็ยังอยู่เค้าเป็นข้าราชการไล่เค้าออกไม่ได้ แต่ห้ามให้เค้าขับรถ เพราะเค้าไปส่งท่านกับเพื่อนไม่ทันเครื่องบิน เลยให้คนขับรถเก่าไปเก็บขยะแทน 8.ห้ามให้นักเรียนใช้รถตู้คันใหม่ เพราะบอกว่า ไม่มีสิทธิ์ ไม่ใช่รถของรัฐบาลให้มา เป็นรถที่โรงเรียนหามาเอง คนอื่นไม่มีสิทธินั่งให้นั่งได้แค่ผู้บริหารสูงๆ เท่านั้น
นอกจากนี้ มีอาจารย์มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้บริหารไม่ลงนามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2560 ยังไม่ตัดยอดงบ ทั้งๆ ที่จะสิ้นปีอยู่แล้ว กลับกันผู้บริหารซื้อเครื่องปรับอากาศ ซื้อจอโทรทัศน์ราคาเป็นแสนบาท แต่ไม่ได้ใช้ ติดที่หอประชุม ซื้อเครื่องตรวจข้อสอบให้ครูแต่เก็บเงินค่าซื้อจากนักเรียน หลายอย่างไม่ได้มีเขียนอยู่ในแผนแต่ซื้อในราคาแพงมากจากคนขายคนเดิม
ทั้งนี้ หลังจากที่นายษิทราได้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น พบว่ามีนักเรียนที่เป็นแกนนำออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ว่า ผู้ปกครองของตนจ่ายไป 900 บาท แต่กลับได้ใบเสร็จออกมาแค่ 200 บาท ถ้าเกิดว่าไม่มีนักเรียนไปถามก็ไม่ออกใบเสร็จมาให้ ส่วนการจัดการเรียนการสอนแบบสมาร์ทคลาส แจ้งเก็บนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น จากเดิม 4,500 บาท เพิ่มเป็น 5,500 บาท มัธยมศึกษาตอนปลาย จากเดิม 6,500 บาท เพิ่มเป็น 7,500 บาท แต่พอถูกเก็บจริง กลับกลายเป็นว่า นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ต้องจ่ายสูงถึง 6,000 บาท และ มัธยมศึกษาตอนปลาย 8,000 บาท จึงสงสัยว่าส่วนต่าง 500 บาทหายไปไหน
นอกจากนี้ ยังพบว่า นักเรียนบางคนที่ร่วมชุมนุม ถูกข่มขู่ว่าจะแจ้งตำรวจจับนักเรียน ในความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ทำให้พวกตนกลัวกันมาก ส่วนนักเรียนอีกคนหนึ่ง ระบุว่า ผู้บริหารโรงเรียนและครูสั่งให้ค้นกระเป๋านักเรียน บางคนถูกยึดโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังมีการเรียกตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน เข้ามาที่โรงเรียน ในช่วงที่นักเรียนซ้อมฟุตบอลในโรงเรียนอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักเรียนโรงเรียนดังกล่าว ได้มีการรวมตัวกันเพื่อขอคำชี้แจงจากฝ่ายบริหารในเรื่องการบริหารการศึกษาที่ไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรม เพราะในปีการศึกษา 2560 ที่ผ่านมา มีการเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษา ค่าชุดนักเรียน และอื่นๆ มากกว่าทุกปีเป็นพิเศษ อาทิ เก็บเงินค่าเข้าค่าย คนละ 250 บาท ทั้งที่ในปีที่ผ่านมาไม่เคยเก็บมาก่อน ส่วนการถ่ายรูปประกอบเอกสารประเมินผลตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ ใบ ปพ. ซึ่งปกติใช้เพียงแค่ 2-3 รูป กลับถูกบังคับให้ถ่ายถึง 24 รูป เป็นที่สงสัยว่าเอื้อประโยชน์ให้ร้านหรือไม่
ส่วนค่าชุดพลศึกษา ปกติจะเก็บเพียง 400 บาท แต่ในปีนี้เก็บ 500 บาท สมุดของโรงเรียน 1 ชุด มีราคาที่สูงขึ้นแต่กลับได้จำนวนสมุดน้อยลงกว่าเดิม ใบเสร็จที่เรียกเก็บต้นเทอมไม่ตรงตามความเป็นจริง จ่าย 900 บาท แต่ให้ใบเสร็จมาเพียง 200 บาท ต้องรอให้ผู้ปกครองทวงถึงจะออกใบเสร็จให้แต่เป็นใบเสร็จย้อนหลังและวันที่ย้อนหลัง อุปกรณ์สีไม่ตรงตามที่นักเรียนเลือกไว้กับทางโรงเรียนและยังคุณภาพต่ำ มีการเก็บเงินพ่อค้าแม่ค้าในโรงเรียนแพงกว่าเดิมจากปกติ 10,000 บาท เป็น 15,000 บาท และกรณีเปลี่ยนชื่อร้านต้องเสียเงิน 30,000-50,000 บาท
ส่วนการสร้างอาคารใหม่ทดแทนหลังเก่า พบว่าเลือกช่วงเวลาก่อสร้างใกล้เคียงกันกับนักเรียนใกล้สอบ ทำให้ไม่มีสมาธิเรียนหนังสือ อีกทั้งยังให้ครูไปช่วยงานก่อสร้าง การแข่งขันกีฬาสีจัดขึ้นในช่วงหน้าฝนของเทอมแรก ซึ่งเป็นช่วงที่นักเรียนเก็บคะแนนเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้นักเรียนไม่สามารถเก็บคะแนนได้ทันเวลา ซึ่งโดยปกติกีฬาสีทุกโรงเรียนจะจัดในภาคเรียนที่สอง หลังจากที่นักเรียนเก็บเกรดเรียบร้อยแล้ว และฝ่ายบริหารไม่สนับสนุนกิจกรรมทั้งที่นักเรียนมีความสามารถในด้านวิชาการและกีฬา อย่างไรก็ตาม การชุมนุมเมื่อวันที่ 22 ก.ย. พบว่าทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้เรียกนักเรียนที่ประท้วงมาฟังคำอธิบาย แต่พอถึงเวลากลับให้ผู้บริหารฝ่ายต่างๆ เข้ามาชี้แจง และไม่ตรงประเด็น อีกทั้งยังยื่นข้อเสนอแก่นักเรียนชั้น ม.6 ว่าจบรุ่นนี้แล้วจะพาไปเที่ยวทะเล ทำให้นักเรียนกังขาเป็นอย่างมาก
อนึ่ง ก่อนหน้านั้นทางผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในจังหวัดสมุทรสาคร อ้างว่ามีกลุ่มคนที่ไม่ชอบตน ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งที่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ตนเข้ามาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนได้ 2 ปีแล้ว โดยปกติโรงเรียนจะทำอะไรต้องขออนุญาตกรรมการสถานศึกษาทุกครั้ง และแจ้งผู้ปกครองทราบโดยตลอด เช่น เงินค่าเข้าค่ายลูกเสือ มีการเพิ่มค่าอาหารอย่างเดียว ส่วนค่าวิทยากร ค่าเข้าค่าย และอื่นๆ โรงเรียนออกให้ ส่วนการเก็บเงินห้องเรียนพิเศษ (สมาร์ทคลาส) สูงกว่าเดิมก็เป็นค่าสอนภาษาอังกฤษ ส่วนนักเรียนจะทำอะไร ทางโรงเรียนก็สนับสนุนทุกอย่าง คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคนที่ไม่ชอบตนพยายามใส่ร้าย จึงขอความเป็นธรรม
สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ