ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อมเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงฯ เข้าตรวจสอบจุดกะเทาะพื้นสะพานแยกต่างระดับมหาชัย ต้นเหตุคร่าชีวิตเหยื่อแผ่นปูนพระราม 2 สั่งตรวจสอบทุกสะพาน ถ.พระราม 2 หวั่นเกิดเหตุซ้ำซ้อน ด้าน นพ.สสจ. เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รพ.เอกชนแรกรับ หลังมีดราม่าเรื่องให้เลือดผิดกรุ๊ป
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พ.ค. 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายมนตรี วงศ์วิวัฒน์ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร และนายปราชญ์พงศ์ เมฆนิติกุล หมวดทางหลวงเศรษฐกิจ ร่วมกันลงพื้นที่สะพานแยกต่างระดับมหาชัย ฝั่งขาเข้าเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีการพาดผ่านถนนพระราม 2 เพื่อสำรวจตรวจสอบจุดที่เกิดการกะเทาะหรือสึกกร่อนของพื้นปูนสะพาน จากกรณีอุบัติเหตุเศษแผ่นปูนจากใต้พื้นผิวของสะพานตกลงไปกระแทกกับรถยนต์กระบะของนายอำนาจ ทองขำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตหลังเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา
โดยจุดที่เกิดการกะเทาะของพื้นปูนสะพานดังกล่าวนั้น เป็นช่วงทางโค้งก่อนลงสะพานต่างระดับ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการกะเทาะได้นั้นมาจากหลายปัจจัย อาทิ สภาพของสะพานที่ก่อสร้างมานานเกือบ 40 ปี ผนวกกับปริมาณรถที่มีเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว และแรงสั่นสะเทือน เป็นต้น ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางฝ่ายงานซ่อมสร้างสะพาน ก็ได้เข้ามาดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมจุดดังกล่าวแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในระดับหนึ่ง
หลังจากนี้ ทางศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) กรมทางหลวง โดยช่างผู้ชำนาญ พร้อมอุปกรณ์ตรวจวัดที่มีคุณภาพสูง จะเข้ามาดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบ และตรวจวัดความมั่นคงแข็งแรงของสภาพพื้นผิวสะพานต่างระดับแห่งนี้ ตามคำสั่งของ รมว.คมนาคม ที่สั่งทบทวนระบบการบริหารงานบำรุงรักษาสะพาน โดยมอบหมายให้กรมทางหลวง เข้าตรวจเช็กสะพาน 17,500 แห่ง ต้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัย – บำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในส่วนของสะพานบนถนนพระราม 2 (ทล.35) มีทั้งหมด 209 แห่ง ก็ได้สั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมดเช่นกัน หากพบว่ามีปัญหาด้านความปลอดภัย ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จะต้องซ่อมแซมทันทีเพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงขึ้นอีกเด็ดขาด ตลอดจนยังเป็นการดำเนินการตามข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของสะพานทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย
ขณะที่ประเด็นดราม่าการให้เลือดผิดกรุ๊ปของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่แรกรับผู้บาดเจ็บเข้าทำการรักษา โดยในตอนแรกมีการให้เลือดกรุ๊ปเอ จำนวน 12 ถุง กระทั่งมีการตรวจพบว่าผู้ตายมีเลือดกรุ๊ปบี หลังจากส่งตัวไปเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเป็นสาเหตุร่วมที่ทำให้การรักษายากขึ้น จนนายอำนาจ ทองขำ ถึงแก่ความตาย นอกเหนือจากการบาดเจ็บที่เกิดจากตับฉีก และเลือดออกในช่องท้องนั้น
ทางด้าน นพ.ประกิจ สาระเทพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตอนนี้ตนพร้อมด้วยคณะทำงานได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวแล้ว โดยต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งมีการตรวจสอบในด้านของการให้บริการ การรักษา และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ขอเวลาในการรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงสักระยะหนึ่ง แล้วจะให้ข้อสรุปที่ชัดเจนต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ