ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556

ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ผมได้ดูข่าวที่แรงงานต่างด้าวชาวพม่ารอขึ้นรถทัวร์ บขส. สายสมุทรสาคร-แม่สอด ซึ่งเป็นเส้นทางเดินรถพิเศษที่จัดขึ้นเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก พอๆ กับบรรดาแรงงานต่างด้าวที่ต่างมาซื้อตั๋วรอขึ้นรถกลับบ้าน พร้อมหอบสัมภาระทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ และของฝาก แม้แต่จักรยานยังซื้อกลับไปฝากลูกหลานทางบ้านในประเทศพม่าอย่างพร้อมเพรียง ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับบ้านภูมิลำเนาเช่นกัน

สำหรับรถทัวร์ บขส. สายสมุทรสาคร-แม่สอดนั้น ใช้รถทัวร์ 999 สายกรุงเทพฯ-แม่สอด มาตรฐาน ม4 (ค) ซึ่งเป็นรถปรับอากาศ 2 ชั้น 55 ที่นั่ง จำนวน 2 คัน ออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารสมุทรสาคร ตลาดทะเลไทย เวลา 20.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ไปถึง อ.แม่สอด จ.ตาก ช่วงเช้ามืด ค่าโดยสารตกอยู่ที่คนละ 500 บาท ซึ่งจาก อ.แม่สอดสามารถข้ามไปยังจังหวัดเมียวดีของพม่า ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่าเพื่อกลับภูมิลำเนาต่อได้เลย

โดยปกติแล้วรถทัวร์ บขส. สายกรุงเทพฯ-แม่สอด มีรถออกจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 ให้บริการรวม 11 เที่ยวต่อวัน แบ่งออกเป็นมาตรฐาน ม4 (ก) รถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง (รถวีไอพี สติ๊กเกอร์สีชมพู) 3 เที่ยวต่อวัน ค่าโดยสาร 666 บาท, มาตรฐาน ม4 (ข) รถปรับอากาศ 2 ชั้น 50 ที่นั่ง (สติ๊กเกอร์สีน้ำเงิน) 3 เที่ยวต่อวัน ค่าโดยสาร 428 บาท และมาตรฐาน ม4 (ค) รถปรับอากาศ 2 ชั้น 55 ที่นั่ง ไม่มีอาหารว่าง (สติ๊กเกอร์สีส้ม) 4 เที่ยวต่อวัน ค่าโดยสาร 333 บาท

สำหรับการเดินรถทัวร์ บขส. สายสมุทรสาคร-แม่สอดนั้น เท่าที่ตามรายงานข่าว ผู้ดูแลสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า เริ่มแรกก็จะทดลองในช่วงสงกรานต์นี้ก่อน เฉพาะขาไป แต่ต่อไปในอนาคตหากได้รับความสนใจจากแรงงานเพิ่มมากขึ้นก็จะมีการจัดบริการเช่นนี้เป็นประจำ โดยเสียงตอบรับหลังจากที่เปิดโครงการพบว่าเกินเป้าหมายที่คาดไว้ ทั้งโทรศัพท์เข้ามา และติดต่อซื้อตั๋วที่สถานี ทำให้ต้องเพิ่มรถเป็น 2 คัน แต่เที่ยวกลับไม่ได้จัดเที่ยวรถไว้

อันที่จริงชาวพม่าเมื่อข้ามฝั่งมายังแม่สอดแล้ว จะมีรถตู้โดยสารทั้งรถเถื่อนและรถตู้โดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ พากันมาวิ่งรับผู้โดยสารชาวพม่า ซึ่งส่วนหนึ่งข้ามกันมาทางแม่น้ำเมียวดี ไม่ได้ข้ามทางด่าน ส่วนใหญ่เดินรถโดยผิดกฎหมาย บางคันขึ้นป้ายรับส่งถึงสมุทรสาครหรือเมืองมหาชัยก็มี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลจะมีมากถึง 100 คันเลยทีเดียว บขส. หรือไม่ก็กรมการขนส่งทางบกน่าจะศึกษาและผลักดันเส้นทางเดินรถหมวด 3 สมุทรสาคร-แม่สอดดูบ้าง เพื่อที่จะได้มีรถโดยสารมาตรฐานที่ถูกกฎหมายให้บริการ ซึ่งมีความสะดวกสบายและปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับรถตู้

ขณะเดียวกัน สถานีขนส่งผู้โดยสารสมุทรสาคร ตลาดทะเลไทย ซึ่งทิ้งร้างและไม่มีรถโดยสารประจำทางใช้บริการมานาน ก็น่าจะดึงผู้ประกอบการรถประจำทางหมวด 3 ไปภาคอีสานและภาคตะวันออก ให้เข้ามารับผู้โดยสารที่นี่บ้าง โดยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการรถหมวด 3 ที่มีจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารใน จ.สมุทรสาคร ได้แก่ รถรุ่งเรืองมุกดาหาร (สาย 393 ระยอง-เกาะสมุย และสาย 831 มุกดาหาร-หัวหิน) และ ทีพี ชนะภัยทัวร์ (สาย 830 อุบลราชธานี-หัวหิน)

แต่ก่อนอื่น ถ้าจะทำเช่นนั้นได้ ก็ควรที่จะต้องมีรถประจำทาง เช่น รถสองแถวเข้าถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารสมุทรสาคร ตลาดทะเลไทยให้ได้ โดยที่ผ่านมาก็เคยมีรถสองแถวขนาดเล็กเข้ามาจอดที่นี่อยู่แล้ว แม้ในระยะแรกๆ ผลตอบรับอาจเงียบไปบ้าง แต่ถ้าทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ก็จะสร้างการจดจำให้กับคนสมุทรสาครและตัดสินใจใช้บริการในที่สุด เพราะไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ซึ่งต่อไปอาจมีแผนย้ายไปที่รังสิตในอนาคตอันใกล้

ที่ผ่านมา สถานีขนส่งผู้โดยสารสมุทรสาคร ตลาดทะเลไทย ขาดการส่งเสริมที่ดีจากทางจังหวัดหลังก่อสร้างเสร็จ ทำให้ถูกปล่อยทิ้งร้าง ทั้งๆ ที่ลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างกว่า 40-50 ล้านบาท แม้ที่ผ่านมาการก่อสร้างสถานีขนส่งตรงจุดนี้คนในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยู่ไกลจากตัวเมืองเกินไป แต่เมื่อโอกาสในการใช้ประโยชน์มาถึง ก็น่าที่จะทำให้สิ่งที่มีอยู่ได้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด แทนที่จะถอดใจแล้วปล่อยทิ้งร้าง ซึ่งไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไปนั่นเองครับ