พ.ร.บ.ความมั่นคง…แล้วเราจะอยู่ยังไง?
ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. 2553
อาจจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในบ้านเราก็ว่าได้ จากที่ก่อนหน้านี้ มหาชัยบ้านเราผู้คนอยู่อาศัย และทำมาค้าขายกันอย่างสงบสุขดีๆ แต่จู่ๆ เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ รัฐบาลก็ออกมาประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 7 จังหวัด 21 อำเภอ รวมทั้งสองอำเภอในสมุทรสาคร คือ อ.เมืองฯ และ อ.กระทุ่มแบนอีกด้วย ทำเอาผู้คนทั้งเมืองงงเป็นไก่ตาแตก และหวาดวิตกกันเป็นแถว
อันที่จริงแม้บ้านนี้เมืองนี้สถานการณ์ทางการเมืองไม่เข้าขั้นรุนแรง แต่คงเป็นเพราะการเคลื่อนไหวที่มีความเข้มข้นขึ้น ถึงขนาดนัดรวมตัวกันที่จุดศูนย์กลางคมนาคม คือ ตลาดต้นสน รวมทั้งเมื่อปีที่แล้วที่เคยมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ปรากฏว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็มีการนัดชุมนุมใหญ่ที่วัดสหกรณ์ ต.โคกขาม อ.เมืองฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ และอยู่นอกเขต พ.ร.บ.ความมั่นคง มาคราวนี้ก็เลยประกาศแบบครอบคลุมไปด้วย
การประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 มอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รับผิดชอบในการดำเนินการ โดยมีข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 18 เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ภายในพื้นที่ตามมาตรา 15 ให้ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอำนาจออกข้อกำหนดดังต่อไปนี้
1.) ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการ หรืองดเว้นปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด
2.) ห้ามเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด ในห้วงเวลาที่ปฏิบัติการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น
3.) ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด
4.) ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหะสถาน
5.) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ
6.) ให้บุคคลปฏิบัติ หรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด เกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ บรรดาข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามหมวดนี้ ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมาย ว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ซึ่งหมายความว่า ไม่สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้ และหากผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คุณผู้อ่านอาจมองว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างไร แน่นอนว่าการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด การห้ามหรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ แม้แต่การจำกัดการใช้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ อาจจะไม่ได้รับความสะดวกบ้าง แต่ในยามที่สถานการณ์เป็นไปอย่างไม่ปกติ ทางการก็มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการนี้เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย
ผมเห็นว่าคุณผู้อ่านไม่ควรจะวิตกกังวลเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้มากเกินไป และควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งแม้ว่ารัฐแต่ละยุคอาจจะมีแนวคิดเทคไซต์ไปบ้าง แต่โอกาสที่จะลุแก่อำนาจคงเป็นไปไม่ได้ในยุคนี้ อีกทั้งการใช้ชีวิตโดยสุจริตด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ไม่น่าหวาดกลัว นอกเสียจากการใช้ชีวิตจะขลุกขลักไปบ้าง
(อ่านคอลัมน์วงเวียนน้ำพุย้อนหลัง และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ www.sakhononline.com คลิกที่ คอลัมนิสต์ออนไลน์ เลือก วงเวียนน้ำพุ)