จะฝากผีฝากไข้กับ “ออร์กาไนซ์เซอร์” ไปถึงไหน?
ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2554
พักนี้มีคนบ่นถึงออร์กาไนซ์เซอร์ (Organizer) บ่อยเหลือเกินครับ…
วันท้องถิ่นไทย 18 มีนาคมที่เพิ่งผ่านไปหยกๆ ผมทราบมาจากคุณสุรพล ระวิวงษ์ว่า บรรดาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลงขันไป 14 ล้านบาท แล้วจ้างบริษัทออร์กาไนซ์เซอร์เจ้าดังที่ชื่อบ้านผู้นำให้มาจัดงาน ปรากฏว่านักข่าวบ้านเราบ่นกันเยอะครับว่า ออร์กาไนซ์เซอร์ที่จัดงานกลับมองข้ามหัวคนในท้องถิ่น ไม่ให้ความร่วมมือกับสื่อมวลชนในบ้านเราเท่าที่ควร แถมยังอาศัยการจัดงานทำมาหากินกันเป็นขบวนการ งานนี้เทศบาลนครสมุทรสาครรับเสียงตำหนิไปเต็มๆ
วัฒนธรรมจ้างออร์กาไนซ์เซอร์ยังแพร่ระบาดไปถึง ประเพณีสงกรานต์วัดบางปิ้ง ที่ผ่านพ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งโดยปกติเทศบาลตำบลนาดีซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักจะต้องอาศัยความร่วมมือคนในท้องถิ่นเข้ามาช่วยจัดงาน ปรากฏว่าในปีนี้ นายกเทศมนตรีตำบลนาดี สมนึก เผือกเล็ก กลับไปจ้างออร์กาไนซ์เซอร์มาจัดงาน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเจ้าไหนและมีความสัมพันธ์กับผู้บริหารเทศบาลอย่างไร ส่วนคนในท้องถิ่นทำได้เพียงแค่ตั้งเวทีเปล่าๆ และทำรั้วไม้ไผ่รอบบริเวณงาน
ภาพที่ออกมา มองไปทางไหนก็มีแต่ภาพของนายกฯ สมนึก โดยเฉพาะเวทีใหญ่และจอโปรเจกเตอร์ ราวกับเวทีหาเสียงหรือพื้นที่โชว์ตัวแสดงผลงานของบรรดาสมาชิกสภาเทศบาลฯ ไม่มีบรรยากาศหรือกลิ่นอายของความเป็นประเพณีสงกรานต์ หรือความร่วมมือร่วมใจของคนในตำบลนาดีปะปนอยู่เลยแม้แต่น้อย นอกจากการเร่ขายบัตรโต๊ะจีนตามโรงงาน พ่อค้า หรือนักการเมืองระดับท้องถิ่น แล้วปรากฏว่าหลายโต๊ะถูกปล่อยว่างอยู่อย่างนั้น ไม่มีใครเข้ามาร่วมงาน
ไม่นับรวมการที่เทศบาลตำบลนาดีไปจ้างออร์กาไนซ์เซอร์จัดงาน ก็คงคงต้องการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ให้คุ้มค่า นอกจากจะใช้พิธีกรแบบไม่เป็นที่ดึงดูดของผู้เข้าร่วมชมงานแล้ว การว่าจ้างดาราระดับรองลงมา หรือดาราหน้าใหม่มาโชว์ตัวก็สร้างสีสันให้กับงานได้เพียงน้อยนิด ไม่นับรวมสคริปของพิธีกรที่มักจะกล่าวชื่นชมนายกฯ สมนึก และผู้บริหารจังหวัดบ่อยครั้งแบบนกแก้วนกขุนทอง โดยไม่ให้ความสำคัญต่อประเพณีและการมีส่วนร่วมในท้องถิ่นแต่อย่างใดเลย
การจ้างออร์กาไนซ์เซอร์แม้โดยผิวเผินจะเป็นเรื่องที่สบาย ขอแค่มีเงินสักก้อนหนึ่งแล้วปล่อยให้บริษัทออร์กาไนซ์เซอร์เป็นคนจัดการแบบเบ็ดเสร็จ โดยที่ผู้ว่าจ้างแค่นั่งกระดิกนิ้วเท้ารอดูภาพรวมของงานก็น่าที่จะเพียงพอแล้ว แต่การที่เรามัวแต่ฝากผีฝากไข้กับออร์กาไนซ์เซอร์ตลอดไปเช่นนี้ นอกจากจะต้องยินยอมให้งานนี้เป็นที่พึงพอใจของบริษัทออร์กาไนซ์เซอร์แต่เพียงฝ่ายเดียวแล้ว ยังเป็นการสร้างความแตกแยก ทำลายความสามัคคีของคนในท้องถิ่นอีกด้วย
เพราะงานประเพณีที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของคนในท้องถิ่น แต่กลับต้องให้สิทธิ์บริษัทออร์กาไนซ์เซอร์ผูกขาดไปเสียทุกอย่าง ประชาชนในท้องถิ่นที่เขาอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ก็ถูกมองข้ามหัวไปอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งบริษัทออร์กาไนซ์เซอร์ก็ไม่ต่างอะไรจากมือปืนรับจ้าง ที่ทำอย่างไรก็ได้ให้เป็นที่พึงพอใจของผู้บริหารท้องถิ่น ไม่มีความเข้าใจท้องถิ่น หรือลึกซึ้งถึงประเพณีวัฒนธรรม รวมทั้งกระแสของคนในท้องถิ่นที่ต้องตีโจทย์ให้ได้ว่าพวกเขาต้องการอะไร
อันที่จริงการจ้างบริษัทออร์กาไนซ์เซอร์ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากเป็นงานประเภทเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร เปิดตัวภาพลักษณ์หรือเครื่องหมายการค้าใหม่ และกิจกรรมทางการตลาด เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยเครื่องมือทางการตลาดและประชาสัมพันธ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว หากแต่ประเพณีท้องถิ่นที่ต้องการความร่วมมือร่วมใจและการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่น ผมเห็นว่าไม่สมควรให้บริษัทออร์กาไนซ์เซอร์จัดงานแต่เพียงผู้เดียวเป็นอันขาด
เพราะผลที่สุด ประเพณีที่ดีงามและสร้างการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่นที่สืบทอดกันมานาน จะถูกกลืนหายไป แทนที่ด้วยวัฒนธรรมเงินซื้อได้ทุกอย่าง ทั้งๆ ที่เรื่องของคนสมุทรสาคร ก็สมควรให้คนในสมุทรสาครเขาดำเนินการกันเอง.
(อ่านคอลัมน์วงเวียนน้ำพุย้อนหลัง และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ www.sakhononline.com คลิกที่ คอลัมนิสต์ออนไลน์ เลือก วงเวียนน้ำพุ)