สมุทรสาคร-กรมโยธาฯ สำรวจผักตบชวาในแม่น้ำท่าจีน พบมีปริมาณสะสมกว่า 3.3 หมื่นตัน

จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงเรือตรวจการณ์ สำรวจประเมินสถานการณ์ผักตบชวาในแม่น้ำท่าจีนในเขตสมุทรสาคร ระยะทาง 40 กม. พบว่ายังมีปริมาณสะสมกว่า 33,000 ตัน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ค. นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายสมชาย เมธวัฒน์ธรากุล รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงเรือตรวจการณ์สำรวจผักตบชวาในแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่องค์การสะพานปลาสมุทรสาคร ไปจนถึงสะพานท่าไม้ (ท่าจีน 4) ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จุดรอยต่อระหว่าง จ.สมุทรสาคร และ จ.นครปฐม เป็นระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร

โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 สมุทรสาคร, ประมงจังหวัดสมุทรสาคร, โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร, ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสมุทรสาคร, ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร, นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ และผู้แทนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสาคร, สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร และ อบจ.สมุทรสาคร ร่วมสำรวจผักตบชวาในแม่น้ำท่าจีนด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จากสถานการณ์ผักตบชวาที่หนาแน่นในแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ หารือและหาวิธีกำจัดผักตบชวาในระยะเร่งด่วน โดยการเก็บใหญ่ได้ขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วน อาทิ อบจ.สมุทรสาคร กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน เทศบาลนครสมุทรสาคร แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง บูรณาการระดมเครื่องมือ เครื่องจักรต่าง ๆ ร่วมกันทำการเก็บผักตบชวาในคลองมหาชัยไปแล้วมากกว่า 5,000 ตัน ช่วยบรรเทาปัญหาผักตบชวาที่ขวางทางน้ำในการสัญจรทางเรือของประชาชนได้เป็นอย่างดี แต่ยังพบว่ามีผักตบชวาไหลเข้ามาในคลองมหาชัยอย่างต่อเนื่องโดยปริมาณที่ไม่มากนัก หากปล่อยทิ้งไว้จะมีปริมาณมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีผักตบชวาอยู่ในแม่น้ำท่าจีนตอนบน จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ลงเรือสำรวจผักตบชวาในแม่น้ำท่าจีน เป็นระยะทางกว่า 40 กิโลเมตรดังกล่าว โดยยังพบว่าผักตบชวายังกระจายเป็นกอเล็กกอน้อย และติดค้างตามแนวตลิ่งเป็นระยะตลอดแม่น้ำท่าจีน รวมถึงมีปริมาณสะสมในเขต จ.สมุทรสาคร ประมาณ 33,000 ตัน ดังนั้น จึงจะขอให้กรมโยธาธิการและผังเมือง จัดชุดเครื่องจักรขึ้นมาเก็บผักตบชวาบริเวณที่หนาแน่น ในส่วนของการเก็บเล็ก จะขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ริมน้ำในท้องที่ ร่วมกับชมรมคนริมน้ำ ช่วยกันสำรวจ ติดตาม พร้อมทั้งจัดเก็บผักตบชวาแบบเก็บเล็กเพื่อป้องกันการขยายแพร่กระจายและเป็นการบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นกับการสัญจรทางน้ำบริเวณแม่น้ำท่าจีน

ทางด้านรองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า แม่น้ำท่าจีนตั้งแต่ประตูน้ำโพธิ์พระยา จ.สุพรรณบุรี จนถึง จ.สมุทรสาคร มีระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ปัจจุบันมีผักตบชวาที่หนาแน่นด้านบนของแม่น้ำท่าจีน ทางกรมจึงได้ตั้งสถานีเก็บผักตบชวา 4 แห่ง ที่บริเวณวัดบางสาม ต.บางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี, วัดบางเลน ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม, วัดทรงคะนอง ต.ทรงคะนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม และวัดบางช้างเหนือ ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม

โดยระดมเครื่องมือ เครื่องจักรต่าง ๆ มาช่วยเก็บในแม่น้ำท่าจีน ทั้งหมด 11 เครื่อง โดยใช้แผนดักเก็บจากด้านบนของแม่น้ำท่าจีนให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ผักตบชวาไหลลงมายังบริเวณ จ.สมุทรสาคร แต่จากการแพร่กระจายของผักตบชวาที่เกิดขึ้นบริเวณปากคลองมหาชัยเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ถอนกำลังบางส่วนจากด้านบน เพื่อส่งเครื่องมือเครื่องจักรลงมาช่วยบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งสถานการณ์ได้คลี่คลายลง

และจากการสำรวจร่วมกับทางจังหวัดสมุทรสาครในครั้งนี้ ยังพบปัญหาผักตบชวาในแม่น้ำท่าจีนกระจายตัวเป็นหย่อม ๆ ตลอดสายน้ำ ประกอบกับแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มีกระแสน้ำที่ไหลแรง แม่น้ำมีขนาดกว้าง และได้รับอิทธิพลการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงของน้ำทะเล ทำให้ผักตบชวาเคลื่อนตัวอย่างไร้ทิศทาง ซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งเป็นข้อจำกัดของความสามารถของเครื่องจักร ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องจักรจะทำงานไม่ได้เต็มที่เนื่องจากเครื่องจักรจำเป็นต้องจัดเก็บในบริเวณที่ผักตบชวาหนาแน่น

ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์รวมทั้งสามจังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร ตั้งแต่ประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา อ.เมืองฯ จ.สุพรรณบุรี ลงมาถึงอ่าวไทย ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 จนถึงปัจจุบัน มีปริมาณผักตบชวาสะสมประมาณ 347,000 ตัน สามารถกำจัดไปแล้วประมาณ 250,000 ตัน ยังคงเหลือผักตบชวากระจายเป็นกอขนาดเล็กสะสมตลอดแนวลำน้ำ ระยะทางกว่า200 กิโลเมตร รวมประมาณ 97,000 ตัน ซึ่งได้ใช้เรือทั้งหมด 11 ลำ แยกเป็นแบคโฮบนพอนทูน (โป๊ะ) 4 ลำ เรือสายพานลำเลียง 7 ลำ เฉพาะพื้นที่ที่ปริมาณผักตบชวาหนาแน่น ส่วนกอผักตบชวาขนาดเล็ก จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และแรงงานคน ร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ช่วยเหลือสอดส่องดูแลตลอดแนวลำน้ำต่อไป

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *