
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หน.ก้าวไกล-แคนดิเดทนายกฯ ลงพื้นที่สมุทรสาคร รับฟังปัญหาประมงและกิจการต่อเนื่องจาก 22 จังหวัด พร้อมขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนพรรคฯ กวาดเก้าอี้ ส.ส. ยกจังหวัด ด้อมส้มแห่ต้อนรับพรึ่บ เชื่อ ส.ว. ไม่ขัดมติประชาชน หวยออก 376 เสียง หนุนนั่งนายกฯ คนที่ 30
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อรับฟังปัญหาในการประกอบอาชีพประมงและกิจการต่อเนื่อง จากตัวแทนชาวประมงและธุรกิจต่อเนื่องทั้ง 22 จังหวัด ก่อนที่จะเดินทางขึ้นรถแห่และขึ้นปราศรัยขอบคุณประชาชนชาวสมุทรสาคร ที่ให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกล โดยมี ส.ส. สมุทรสาคร ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม, เขต 2 นายศิริโรจน์ ธนิกกุล และเขต 3 นายศิรสิทธิ์ สงนุ้ย รวมถึงนายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม. เขต 27, น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส. กทม. เขต 28, นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส. ตราด และนายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ส.ส. สมุทรสงคราม ร่วมลงพื้นที่ด้วย







เริ่มต้นเมื่อเวลา 15.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมคณะ เดินทางมาที่ห้องประชุมสหกรณ์พัฒนาการประมงมหาชัย (ตลาดทะเลไทย) ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อหารือร่วมกับ นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย, นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ ที่ปรึกษาสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย, นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ที่ปรึกษาสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย, นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร นายสุวันชัย แสงสุขเอี่ยม ประธานตลาดทะเลไทย รวมถึงนายกสมาคมการประมงจาก 22 จังหวัด ภาคเอกชน และพี่น้องชาวประมง

โดยในที่ประชุมได้นำเสนอปัญหาข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะถ้าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็ต้องการให้ผลักดันการแก้ไข พ.ร.ก.ประมง ปี 58 และกฎหมายประมงที่ออกมาบังคับใช้ทำให้พี่น้องชาวประมงต้องทนทุกข์มานานกว่า 8 ปี บางคนสูญเสียรายได้ บางคนสูญเสียอาชีพ และบางคนสูญเสียชีวิต ขณะที่บริเวณด้านล่างหอประชุม ชาวประมงได้มีการสะท้อนปัญหาของชาวประมงลงบนแผ่นกระดาษแล้วติดที่อวน เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้เห็นว่า อวนผืนนี้คืออวนล้อมปัญหาที่พร้อมจะส่งมอบให้ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้รับไปพิจารณาแก้ไข อาทิ ปัญหาเรื่องระยะเวลาการทำงาน ปัญหาเรื่องกฎระเบียบที่เข้มงวดและไม่ตรงกับสภาพการจ้างงานที่เป็นจริง ปัญหาแรงงาน ปัญหาค่าแรง ปัญหาขั้นตอนการยื่นขอใช้แรงงาน การซื้อเรือคืน ปัญหาราคาน้ำมัน และปัญหาการปรับเปลี่ยนเครื่องมือทำกิน เป็นต้น

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวหลังจากรับฟังปัญหาในภาคประมงและกิจการต่อเนื่อง 2 ชั่วโมงแล้ว ก็กล่าวว่า ตนเองทราบดีว่าภาคประมงได้ทนกับปัญหานี้มานาน และกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และอาชีพอื่น ๆ บางคนต้องสูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งการแก้ปัญหาภาคประมงต้องทำทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ไปถึงระดับนานาชาติ และให้ความเชื่อมั่นว่าจะต้องฟื้นฟูอาชีพประมงให้กลับมารุ่งเรืองควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรทางทะเลให้สมบูรณ์ นอกจากนี้ตนเองยังมั่นใจว่าปัญหาของพี่น้องชาวประมงจะต้องคลี่คลายไปได้อย่างแน่นอน หากตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหานี้จะลุล่วงสำเร็จขึ้นอยู่กับ 3 ค. คือ คนที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหา โครงสร้างของปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับสภาพความเป็นจริง และคลังข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อนำสู่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ถูกที่ และถูกทาง





ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมด้วย ส.ส. สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ทั้ง 3 เขต ได้ขึ้นรถแห่รอบตลาดมหาชัย เพื่อขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุนเลือก ส.ส. พรรคก้าวไกลทั้ง 3 เขตในการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเส้นทางเริ่มจากบริเวณถนนนิคมรถไฟ เข้าสู่ถนนนรสิงห์ ผ่านวงเวียนน้ำพุ ร.ร.สมุทรสาครบูรณะ ก่อนเลี้ยวเข้าถนนเศรษฐกิจ มุ่งหน้าไปยังบริเวณริมเขื่อนหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร เพื่อขึ้นกล่าวปราศรัย โดยมีประชาชนราว 5,000 คน ทั้งนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลบางคนแต่งกายด้วยเสื้อสีส้มให้การต้อนรับอย่างแน่นขนัดตลอดเส้นทาง ซึ่งนายพิธา ก็ได้ยิ้มทักทายโบกไม้โบกมือกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ





โดยนายพิธา กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาครที่เทคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล จนสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. มาได้ทั้ง 3 เขตแบบยกจังหวัด พร้อมยังกล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า ขอให้พี่น้องทุกคนไม่ต้องกังวลใจ การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกล พร้อมกับ 8 พรรคการเมืองจะผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่มีอะไรมาขัดขวางได้ ส่วนทางด้านของสมาชิกวุฒิสภาจะโหวตให้โดยไม่ขัดต่อความต้องการในเสียงส่วนมากของพี่น้องประชาชน ซึ่งทางฝ่ายที่ได้คะแนนเสียงข้างมากจะได้จัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ หากตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับชาวสมุทรสาครได้เป็นผลแน่นอน




“เราเชื่อว่าวุฒิสภาจะเลือกตามหลักการเดิม เมื่อปี 2562 เขาบอกว่าสภาล่างไปคุยกันเอง รวมคะแนนให้ได้ 251 เสียง เขาก็จะไม่ขัดมติประชาชน 4 ปีผ่านไป ผมก็ยังเชื่อว่าเขาจะเลือกตามหลักการเดิม เพราะฉะนั้นคราวนี้หวยไม่ได้ออก 251 หรือ 312 หวยคราวนี้ออก 376 แล้วเรามาตั้งรัฐบาลด้วยกัน ส่งผมให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เพื่อประชาชนชาวสมุทรสาครทุกคนครับ ขอบคุณมากครับ” นายพิธา กล่าว
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง