เกิดเหตุชายวัย 57 ปี สาดปลาเน่าในศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร แต่กลับพลาดไปถูกเจ้าหน้าที่ อส. กับกลุ่มนักข่าว เปียกเหม็นกันทั่วหน้า บางรายโทรศัพท์เสียหายต้องเข้าแจ้งตำรวจลงบันทึกประจำวัน ด้านผู้ก่อเหตุยอมรับผิดพร้อมชดใช้ตามจริง เผยเป็นตัวแทนภาคประชาชน ลงมือหวังแสดงออกให้ภาครัฐเข้าใจปัญหาน้ำเน่าเสียคลองภาษีเจริญ ร้องเรียนหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้เจตนาจะสาดคน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 ก.ค. 66 ที่หน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร บริเวณโถงชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เกิดเหตุชายวัย 57 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนภาคประชาชนที่ขับเคลื่อนเรื่องแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองภาษีเจริญ ได้หิ้วกระป๋องใส่ปลาเน่ามาเต็ม 2 กระป๋อง ที่บอกว่าเป็นปลาที่ลอยตายภายในคลองภาษีเจริญ โดยตั้งใจจะเอามาสาดใส่ที่พื้นด้านหน้าศูนย์ดำรงธรรมฯ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หลังจากที่ได้ร้องเรียนตามหน่วยงานต่าง ๆ ถึงปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองภาษีเจริญและคลองสาขาต่อหน่วยงานรัฐและภาคส่วนต่าง ๆ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นภายในศาลากลางจังหวัดฯ เมื่อชายคนดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวท้องถิ่น 4-5 คน ถึงวัตถุประสงค์ในการมาที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ ทันใดนั้นเองชายคนดังกล่าวได้อาศัยจังหวะที่กำลังโชว์ปลาเน่าให้สื่อท้องถิ่นได้เก็บภาพ เดินไปที่บริเวณหน้าลิฟท์แล้วสาดปลาเน่ากระป๋องแรกลงไปที่พื้นฝั่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ อส. ที่มาคอยควบคุมสถานการณ์ปรี่เข้ามาชาร์จ แต่ชายคนดังกล่าวคิดว่าจะเข้ามารวบตัวจึงแสดงท่าทีโมโห แล้วสาดปลาเน่าอีกกระป๋องหนึ่งเข้ามาอีกฝั่งหนึ่ง พลาดไปโดนผู้สื่อข่าวท้องถิ่นที่กำลังเก็บภาพข่าวอยู่ และเจ้าหน้าที่ อส. รายดังกล่าว จนเปียกเหม็นไปทั้งตัว และส่งกลิ่นเน่าไปทั่วบริเวณ
นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้โทรศัพท์มือถือของผู้สื่อข่าวรายหนึ่งได้รับความเสียหายด้วย เพราะถูกสาดปลาเน่าเข้าไปเต็ม ๆ ขณะบันทึกคลิปวีดิโอ จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมกับตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับผิดทุกประการ และพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามความเป็นจริง ส่วนทางผู้สื่อข่าวก็บอกว่า ตอนแรกที่ตนถูกสาดปลาเน่าและน้ำเสียใส่ ก็รู้สึกโกรธเพราะตนทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ แต่ต้องมาโดนแบบนี้ที่นอกจากจะเหม็นไปทั้งตัวแล้ว ยังทำให้อุปกรณ์สื่อสารเกิดความเสียหายด้วย แต่เมื่อทางผู้ก่อเหตุได้ขอโทษ ก็รู้สึกผ่อนคลายความโกรธลงแล้ว แต่ที่ยังต้องมาแจ้งความบันทึกประจำวันไว้ เพราะหากเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์สื่อสารของตนในภายหลัง จะได้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นผลอันเนื่องมาจากการกระทำดังกล่าว
โดยชายวัย 57 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนภาคประชาชน บอกว่า ที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ปัญหาน้ำเสียในคลองภาษีเจริญก็ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทุกวันนี้น้ำยังเสีย มีปลาตาย ตนเองต้องพายเรือเก็บปลาเน่า เก็บขยะในคลองตอนเช้าทุกวัน และประชาชนริมคลองภาษีเจริญก็ต้องทนกับความเน่าเหม็นมาเป็นเวลานาน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนั้น จึงต้องนำปลาเน่ามาเทราด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าใจความรู้สึก แต่ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะสาดคน และได้ขอโทษผู้สื่อข่าวที่โดนปลาเน่าสาดด้วย และได้บอกว่าที่ตนเองมาเทปลาเน่านี้ ก็ทราบดีว่าจะโดนอะไรบ้าง แต่ก็พร้อมที่จะโดน เพราะการร้องเรียน หากอยากให้ได้ผล ต้องมีการสูญเสีย ต้องมีการลงทุน ซึ่งวันนี้ตนเองพร้อมที่จะโดนในทุกข้อหาความผิด ซึ่งหากโดนจับ ก็ยินดีและจะไม่ขอยื่นประกันตัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน ก็ได้ลงพื้นที่ไปดูที่คลองกระทุ่มแบน ซึ่งเป็นคลองเชื่อมต่อกับคลองภาษีเจริญ และเป็นคลองที่ตัวแทนภาคประชาชนคนดังกล่าว ระบุว่าเป็นสาเหตุให้ปลาในคลองภาษีเจริญตายลง เนื่องจากน้ำเน่าในคลองกระทุ่มแบน ไหลย้อนกลับไปที่คลองภาษีเจริญ ประกอบกับทางเทศบาลเมืองคลองมะเดื่อ ยังไม่เปิดคันกั้นน้ำตรงคลองแสนสุข ซึ่งเป็นคลองสาขาของคลองกระทุ่มแบน ที่จะช่วยดึงน้ำเสียจากคลองกระทุ่มแบนก่อนไหลย้อนไปถึงคลองภาษีเจริญ จึงทำให้เกิดสภาพน้ำเน่าเสียและปลาตายในคลองภาษีเจริญหลาย ๆ จุด เหม็นตลอดสายคลอง
โดยภายหลังจากการลงพื้นที่ดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งการให้นายอำเภอกระทุ่มแบน ไปประสานกับทางประมงอำเภอกระทุ่มแบน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปลาตายและน้ำเสียไหลย้อนกลับตามที่มีผู้ร้องเรียน ส่วนเรื่องของการเปิดคันกั้นน้ำในคลองแสนสุขนั้น เบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้นายอำเภอกระทุ่มแบน ได้รับการร้องเรียนจากบุคคลดังกล่าวแล้ว และก็ได้สั่งการให้ทางเทศบาลเมืองคลองมะเดื่อ นำเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ดำเนินการเปิดคันกั้นน้ำอย่างถาวรในวันศุกร์นี้ (14 ก.ค.) แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเสียก่อน
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง