สมุทรสาครสำรวจ “ปลาหมอสีคางดำ” ระบาดหนัก งัดแผน “2ป.-2บ.” แก้วิกฤต

รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร นำทีมสำรวจติดตามสถานการณ์การระบาด “ปลาหมอสีคางดำ” ที่คลองสุนัขหอน และคลองลำท่าแร้ง ชูแนวทาง 2 ป.-2 บ. หรือ “ป้องกัน-ปราบปราม-บริโภค และบริหารจัดการ” แก้ไขปัญหา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ส.ค. 66 นายอาวุธ วิเชียรฉาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ตัวแทนภาคเกษตรกร และผู้นำชุมชน ร่วมกันลงสำรวจและติดตามสถานการณ์การระบาดของปลาหมอสีคางดำในพื้นที่ 2 แห่ง ได้แก่ คลองสุนัขหอน บริเวณวัดบางพลี ต.บางโทรัด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร กับคลองลำท่าแร้ง บริเวณวัดยกกระบัตร ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ซึ่งพบว่ามีปริมาณปลาหมอสีคางดำอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นจนแทบไม่มีปลาชนิดอื่น

นายอาวุธ วิเชียรฉาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สภาพปัญหาที่เกิดจากปลาหมอสีคางดำนี้ มีมาได้ราว 4 ปีแล้ว และเริ่มมีการระบาดหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน กลายเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะการระบาดของปลาหมอสีคางดำนั้นทำลายความอุดมสมบูรณ์ต่อสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ โดยปลาหมอสีคางดำจะไปกินตัวอ่อนหรือสัตว์น้ำขนาดเล็กอื่น ๆ เป็นอาหาร ตามลักษณะนิสัยเป็นปลานักล่า ทั้งในบ่อเลี้ยงและในแหล่งน้ำสาธารณะ และมีการขยายพันธุ์เร็วมาก

สำหรับแนวทางหรือยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำนั้น สรุปในภาพรวมเป็นแนวทาง “2ป. 2บ.” ได้แก่ “ป้องกัน” คือการแนะนำให้เกษตรกร ทำการกรองน้ำที่จะปล่อยลงบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆ หรือใช้กากชากำจัดสัตว์ที่ไม่ต้องการก่อนปล่อยสัตว์น้ำที่จะทำการเพาะเลี้ยงลงในบ่อ “ปราบปราม” หรือการกำจัด มีทั้งในรูปแบบของการใช้คนจับ โดยส่งเสริมการจับปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น การจัดกิจกรรมแข่งขันจับปลาหมอสี การสนับสนุนเครื่องมือจับปลาชนิดนี้ให้แก่เกษตรกร และการใช้สัตว์นักล่าจับปลาหมอสีคางดำ เช่น ปลากะพงขาว โดยปล่อยลงไปกินปลาหมอสีคางดำ เป็นการกำจัดโดยธรรมชาติ เรียกวิธีนี้ว่า ปลากินปลา หรือนักล่ากำจัดนักล่า

การ “บริโภค” หรือนำไปใช้ประโยชน์ โดยภาครัฐจะต้องเข้ามาส่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชนว่าเมื่อจับปลาหมอสีคางดำขึ้นมาแล้วจะเอาไปไหน หรือทำอะไรได้บ้าง ซึ่งมีทั้งจับแล้วขายเลยแบบสด ๆ เพื่อให้ผู้ซื้อนำไปแปรรูป หรือนำไปทำเป็นอาหารสัตว์ ขายแบบแปรรูป เช่น ปลาแดดเดียว และภาครัฐจัดหาผู้รับซื้อเพิ่มให้แก่ผู้จับปลาหมอสีคางดำ อาทิ ขณะนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดฯ ได้ติดต่อเจรจากับผู้ผลิตปลาร้าในจังหวัดภาคอีสานเพื่อซื้อขายไปทำปลาร้า อีกทั้งยังมีการวางแนวทางในระยะกลางที่จะของบประมาณเพื่อประกันราคาของปลาหมอสีคางดำ (ปัจจุบันโรงงานปลาป่นรับซื้อ กก.ละ 4.50-5.00 บาท)

และการ “บริหารจัดการ” โดยทางจังหวัดสมุทรสาครจัดตั้งคณะทำงานดูแลเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ พร้อมกับ ส่งเสริมให้เกษตรกรจัดตั้งกลุ่มเพื่อให้การดำเนินการทุกยุทธศาสตร์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รวมกลุ่มกันจับปลา ตั้งจุดรวบรวมขายปลา และการประชาสัมพันธ์

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้ายด้วย ปลาหมอสีคางดำนั้น เป็นปลาที่จัดอยู่ในประเภทสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกราน จึงมีกฎหมายห้ามปล่อยลงในแหล่งน้ำสาธารณะ และห้ามเลี้ยงอย่างเด็ดขาด เพราะปลาชนิดนี้จะไปทำลายระบบนิเวศที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เนื่องจากเป็นสัตว์นักล่าและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเป็นสัตว์ที่ต้องมีการควบคุมการขยายพันธุ์และห้ามเลี้ยง ห้ามปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ

สำหรับพี่น้องประชาชน หรือพี่น้องเกษตรกร ถ้าพบเห็นการกระทำที่ฝ่าฝืนฯ ดังกล่าวข้างต้นนั้น นอกจากจะต้องช่วยกันตักเตือน หรือแจ้งจับผู้กระทำผิดแล้ว ยังต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันกำจัดปลาหมอสีคางดำให้หมดไปจากธรรมชาติ ด้วยวิธีการที่ทางภาครัฐได้แนะนำไปแล้วด้วย เพื่อเป็นการช่วยกันระงับหรือยุติการแพร่พันธุ์ และยับยั้งการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ทั้งในแหล่งน้ำสาธารณะ และแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกรในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *