
เกิดเหตุหญิงสาวชาวไทยใหญ่ อายุราว 40 ปี ปีนเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคม ด้านข้างศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ฯ ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานครึ่ง ชม. จึงยอมปีนลงมา ส่วนสาเหตุน้อยใจที่ทำบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนไม่ได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ต.ค. 2566 เกิดเหตุหญิงสาวอายุประมาณ 40 ปี ปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคม ความสูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งตั้งอยู่หลังอาคารสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ด้านข้างศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้แก่ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์อย่างมาก เพราะเกรงว่าจะพลัดตกลงมา ขณะเดียวกัน นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ อส. และหน่วยงานต่าง ๆ ภายในศาลากลางจังหวัดฯ ได้พยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวคนดังกล่าวปีนลงมา
พร้อมประสานขอสนับสนุนเบาะลมจากหน่วยกู้ภัย อบต.โคกขาม รถกระเช้าเครนยาวจากเทศบาลนครสมุทรสาคร รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งจากการเกลี้ยกล่อมนานประมาณ 30 นาที หญิงสาวคนดังกล่าวจึงยอมปีนลงมาแต่โดยดี ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้พาตัวไปสงบสติอารมณ์ พร้อมกับพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะนำส่งให้แพทย์ทำการตรวจสภาพร่างกาย และประสานครอบครัวให้มารับกลับบ้าน


ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร เล่าว่า ตอนนั้นตนเองกำลังเอาแก้วน้ำออกไปล้าง ก็เห็นหญิงสาวคนนี้เดินไปเดินมาด้วยในหน้าเคร่งเครียด ตนจึงถามว่า น้องจะไปไหน เขาก็ตอบกลับมาว่า อยากตาย ไม่อยากอยู่แล้ว ซี่งตนจึงรีบบอกกลับไปอีกว่า ให้น้องเดินมาติดต่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ มีปัญหาอะไรก็พูดคุยเพื่อขอความช่วยเหลือได้ ซึ่งหญิงสาวก็เดินมาตามที่บอก แต่ช่วงจังหวะที่ตนเอาของไปเก็บในห้องเก็บของนั้น หญิงสาวคนดังกล่าวกลับตัดสินใจไปปีนเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคม โดยขณะนั้นมีแม่บ้านอีกคนมาร้องเรียกบอกตนว่าเขาปีนเสาขึ้นไปแล้ว และปีนขึ้นไปอย่างไวมาก ตนจึงรีบวิ่งมาเรียกคนในสำนักงานฯ ให้ไปช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวลงมา


ขณะที่นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ผู้ที่ปีนขึ้นไปนั้นเป็นหญิงสาวชาวไทยใหญ่ อายุราว 40 ปี ซึ่งจากการที่ได้มีการพูดคุยกัน ทำให้ทราบถึงสาเหตุที่ปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคมเนื่องจากความเข้าใจที่ไม่ชัดเจนในการขอทำบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน โดยหญิงสาวคนดังกล่าวรู้สึกน้อยใจชีวิตที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ไม่สามารถทำบัตรอะไรได้เลย พอมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่หลายครั้ง ก็ไม่สามารถออกบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนให้ได้ เพราะไม่มีหลักฐานใด ๆ มาแสดงในการยื่นขอทำบัตร จึงไม่มีโอกาสใช้สิทธิต่าง ๆ ทั้งการทำงาน และการรักษาพยาบาล

แต่หญิงสาวคนดังกล่าวมีบุตรที่เกิดในประเทศไทย ซึ่งกำลังทำงานอยู่ 1 คน กับ เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาครอีก 1 คน ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงแนะนำให้ไปรวบรวมเอกสารต่าง ๆ และเอกสารที่เกี่ยวกับบุตรทั้ง 2 คน รวมถึงยังจะได้ประสานไปทางโรงเรียนเพื่อให้ออกเอกสารแสดงการเรียนหนังสือของบุตร เป็นการยืนยันว่าหญิงสาวเป็นมารดาที่แท้จริง และมีบุตรที่กำลังศึกษาอยู่จริง อันจะยืนยันได้ว่าหญิงสาวคนนี้อยู่ในประเทศไทยนานแล้วตามที่บอกกล่าว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อออกบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรสีขาว) ให้ได้ และสามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยได้สิทธิตามที่กฎหมายไทยระบุไว้ได้ต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ