สส. ก้าวไกล สมุทรสาคร จัดกิจกรรม “อยู่อย่างเบาใจ จากไปอย่างใจเบา” เรียนรู้สิทธิการตายดีในประเทศไทย

สส. สมุทรสาคร เขต 1 จัดกิจกรรม “อยู่อย่างเบาใจ จากไปอย่างใจเบา” ร่วมสำรวจคุณค่าชีวิต เรียนรู้สิทธิการตายดีในประเทศไทย เขียน “สมุดเบาใจ” เพื่อการวางแผนสุขภาพล่วงหน้า โดยวิทยากรจาก “เบาใจแฟมิลี่”

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2567 ที่สำนักงานพรรคก้าวไกล เขต 1 สมุทรสาคร ถนนท่าปรง ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม หรือ ฟลิ้น สส. สมุทรสาคร เขต 1 พรรคก้าวไกล จัดกิจกรรม “อยู่อย่างเบาใจ จากไปอย่างใจเบา” ร่วมสำรวจเส้นทางคุณค่าความหมายของชีวิต เรียนรู้สิทธิการตายดีในประเทศไทย เขียน “สมุดเบาใจ” พินัยกรรมชีวิต เพื่อการวางแผนสุขภาพล่วงหน้า โดยมี น.ส.ปิญชาดา ผ่องนพคุณ หรือ กอเตย ผู้ก่อตั้ง “เบาใจแฟมิลี่” (Baojai Family) เป็นวิทยากร และแขกรับเชิญพิเศษ น.ส.สิริลภัส กองตระการ หรือ หมิว สส. กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคก้าวไกล มีสมาชิกพรรคก้าวไกลและผู้สนใจเข้าร่วม จำนวน 20 คน

สำหรับกิจกรรม “อยู่อย่างเบาใจ จากไปอย่างใจเบา” มีการเล่นเกมไพ่ไขชีวิต และเกมข้ามเส้น ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ตอบคำถาม พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่องของชีวิตและความตายจากประสบการณ์ตรงของตนเอง อีกทั้งเรียนรู้สิทธิการตายดีในประเทศไทย การวางแผนดูแลสุขภาพล่วงหน้า (Advance Care Planning) และทำความรู้จัก “สมุดเบาใจ” เครื่องมือช่วยทบทวน วางแผนชีวิต และสื่อสารเจตนาล่วงหน้าเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่วงสุดท้ายของชีวิต พร้อมเขียนลงไปในสมุด

น.ส.ปิญชาดา ผ่องนพคุณ หรือ กอเตย ผู้ก่อตั้งเบาใจแฟมิลี่ เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการเวิร์คช้อป โดยหลักคืออยากให้ประชาชนรู้ถึงสิทธิการตายดีของประเทศไทย ที่ทุกคนมีอยู่ติดตัวอยู่แล้วในฐานะเจ้าของชีวิต โดยชวนทำกิจกรรมเล่นเกมไพ่ไขชีวิต และเขียนสมุดเบาใจ เพื่อให้คนได้ทบทวนคุณค่าเป้าหมายของชีวิตก่อน แล้วจะได้เตรียมแผนสู่การตายดีในแบบของตนเองซึ่งเรียกว่า “การวางแผนดูแลสุขภาพล่วงหน้า” ที่ปัจจุบันเป็นเทรนด์ใหม่ที่คนไทยทุกคนต้องทำสิ่งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เชิญชวนประชาชนมาทำกิจกรรมดังกล่าว สิ่งที่ผู้เข้าร่วมจะได้กลับไป คือจะได้เตรียมตัวตายดีในแบบของตัวเอง อีกส่วนหนึ่งคือได้กลับมาทบทวนชีวิตในปัจจุบันว่าตนจะใช้ชีวิตอย่างไรดี เพื่อให้ไปสู่การตายดีในแบบที่ตนปรารถนา เวิร์คช้อปในครั้งนี้จึงเป็นลักษณะของการทำกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม ให้ผู้เข้าร่วมได้ใคร่ครวญ ได้คิด ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน แล้วก็นำไปสู่การเขียนแผนการตายดีของตัวเอง

ส่วนที่มาของ “เบาใจแฟมิลี่” (Baojai Family) บริการให้คำปรึกษาและวางแผนชีวิตเพื่อการตายดี (Pre-Death Planning) นั้น ตนเองเป็นชาวจังหวัดสมุทรสาครโดยกำเนิด และทำงานในด้านสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่คุณพ่อของตนป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ตนจึงตั้งคำถามว่าในจะทำอย่างไรให้คุณพ่อได้ตายดีแบบสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพราะตนเห็นในช่วงท้ายของชีวิตผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการหรือมักจะถูกยื้อชีวิตไว้ เลยเริ่มจากการสื่อสารกับคุณพ่อ บอกว่าถ้าอยากส่งให้ตายดีทำให้แค่สองอย่าง หนึ่ง ไม่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ สอง พาคุณพ่อกลับบ้าน สองอย่างนี้จึงเป็นคุณค่าที่ตนได้ทำให้คุณพ่อในช่วงท้ายของชีวิต

พอตนเห็นแบบนี้ก็ได้รับรู้ว่า สิทธิการตายดี ที่คุณพ่อของตนได้วางแผนของตัวเองไว้นั้นคนไทยรู้น้อยมาก จึงได้เริ่มต้นนำเสนอคอนเซปต์ดังกล่าวให้กับทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร และได้ไปทำให้กับชมรมผู้สูงอายุ อบต.พันท้ายนรสิงห์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ เบาใจแฟมิลี่ เลยเหมือนกับว่าตนเห็นว่าสิ่งนี้มันดี ตนให้คุณพ่อเขียนสมุดเบาใจ แล้วคุณพ่อจากไปอย่างดีได้ จึงอยากให้ประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ใช่แค่ในจังหวัดสมุทรสาครได้รู้จักและทำสิ่งนี้ ก็เลยก่อตั้ง เบาใจแฟมิลี่ ขึ้นมา ซึ่งทำในส่วนของการให้บริการเพื่อให้คนได้สื่อสารเรื่องความตายในครอบครัวได้ โดยเบาใจแฟมิลี่จะเป็นคนกลางในการพูดคุย อีกส่วนหนึ่งตนเป็นกระบวนกร (Facilitator) หรือนักจัดกระบวนการเรียนรู้ ก็คือการจัดเวิร์คช้อปในรูปแบบลักษณะนี้ ซึ่งเบาใจแฟมิลี่ได้ทำมาเข้าปีที่ 4 แล้ว

ขณะที่ นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม หรือ ฟลิ้น สส. สมุทรสาคร เขต 1 ผู้จัดกิจกรรม เปิดเผยว่า ที่มาของการจัดกิจกรรม “อยู่อย่างเบาใจ จากไปอย่างใจเบา” เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ตนจัดขึ้นทุกเดือน อยากจะให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ได้มาทำความรู้จักกัน รวมถึงได้ใช้โอกาสนี้ในการสะท้อนข้อปัญหาต่าง ๆ ให้กับทาง สส. และอยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนในระหว่างดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่แค่ในตอนเลือกตั้ง เพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องการตายดีเป็นประเด็นที่ทางตนสนใจ และทางพรรคก้าวไกลพยายามจะผลักดัน ที่สำคัญประเด็นนี้ยังถูกพูดถึงในสังคมอยู่น้อยมาก ก็เลยคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ในการปักธงความคิด พูดคุยกับพี่น้องประชาชนว่าแต่ละท่านคิดเห็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เอาไปคิดต่อในการผลักดันนโยบายดังกล่าวต่อไป

ส่วนกิจกรรมของทาง สส. สมุทรสาคร เขต 1 พรรคก้าวไกลนั้น ตนมีความตั้งใจที่จะจัดต่อเนื่องทุกเดือน ถ้าไม่ได้ติดเรื่องอะไรที่สำคัญ เช่น ช่วงบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง หรือช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้พบปะพูดคุยกัน อย่างน้อยตนก็ทำให้เห็นว่าตนได้รับเลือกเข้ามาเป็น สส. แล้ว ก็ยังฟังเสียงของประชาชนอยู่ตลอด ไม่ใช่ว่าเปลี่ยนไปหลังจากมีตำแหน่งแล้ว ซึ่งก็ใช้โอกาสนี้สลับกันระหว่างประชาชนมาร่วมกิจกรรมกับทาง สส. ขณะเดียวกันตนก็ลงพื้นที่ไปหาประชาชนตามแต่ละบริบท เพราะนอกจากการจัดกิจกรรมแล้ว ก็จะมีการไปลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของประชาชนอยู่ตลอดเช่นกัน

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *