
ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร จับ 2 คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์หญิงวัย 43 ปี หน้าโรงงานวุ้นเส้น ต.บางหญ้าแพรกได้แล้ว ขยายผลจับคนรับซื้อของโจรด้วย เผยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร
เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 22 ม.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อม พ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมแถลงผลการจับกุม นายชัยธวัช แก้วปาน อายุ 28 ปี, นายพรชัย แก้วปาน อายุ 38 ปี ชาว ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร และนายสมใจ โตกราน อายุ 40 ปี ชาว ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร
พร้อมด้วยของกลาง มีดปลายแหลม ยาว 31 ซม. ใบมีดยาว 20 ซม. จำนวน 1 เล่ม รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น เอ็ม-สแลช สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ HUAWEI รุ่น Y5 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง โดยแจ้งข้อกล่าวหานายชัยธวัช และนายพรชัย ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด พาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และนายสมใจ กระทำความผิดฐานรับของโจร

ซึ่งพฤติการณ์ในการจับกุม เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนเวร ว่า มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ นางสุชาดา อ่วมเปี่ยม อายุ 43 ปี บริเวณริมถนนหน้าโรงงานวุ้นเส้นเกาลูน หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยได้ทรัพย์สินไปประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ HUAWEI รุ่น Y5 จำนวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 4,000 บาท และเอกสารประจำตัวของผู้เสียหาย
ตำรวจจึงทำการสืบสวนจากกล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายชัยธวัชและนายพรชัย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 9 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กระทั่งวันที่ 21 ม.ค. เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหมวดรักษาความสงบจังหวัดสมุทรสาคร จึงนำกำลังเข้าจับกุม จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ของผู้เสียหายจริง โดยมีนายชัยธวัช เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนนายพรชัย เป็นคนลงมือจี้ชิงทรัพย์

หลังก่อเหตุได้นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปขายให้กับนายสมใจ ได้เงินมาประมาณ 1,000 บาท และยังเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร อีกหลายครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปจับนายสมใจ ได้ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ 5 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการติดต่อผู้เสียหายในแต่ละคดี เพื่อมาชี้ยืนยันตัวผู้ต้องหาและยืนยันทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้าย ก่อนจะได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ