“เอจีอี” จ่อทำยอดถ่านหินนาดีเพิ่ม คาดรายได้ทั้งปีแตะ 6 พันล.

กรรมการผู้จัดการ “เอเชีย กรีน เอนเนอจี” เผยหลังเปิดสาขานาดี ทำให้กลับมามีคลังสินค้าครบทั้ง 3 แห่งอีกครั้ง ส่วนลูกค้าในมือมีกว่า 100 ราย จากย่านอุตสาหกรรมเขตปากน้ำ-มหาชัย และปริมณฑล คาดทยอยรับรู้รายได้ต้นปี 2556 และสิ้นปีรายได้แตะ 6 พันล้าน

นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถเปิดดำเนินการคลังสินค้าและโรงงานคัดแยกถ่านหิน ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีสำหรับแผนการขยายการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างมาก เพราะพื้นที่ดังกล่าวบริษัทฯ มีฐานลูกค้ากว่า 100 ราย โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กว่า 50% ประกอบกับเป็นย่านนิคมอุตสาหกรรมเขต จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ เขตอุตสาหกรรมปริมณฑล ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ครบคลุมภาคกลางตอนล่าง ซึ่งบริษัทฯ จะปรับรู้รายได้จากคลังสินค้าดังกล่าว เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1/2556 เป็นต้นไป ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมียอดขายถ่านหินจาก ต.นาดี จากพื้นที่ในการจัดเก็บสต๊อกถ่านหิน เฉลี่ย 40,000 ตันต่อเดือน และรองรับการผลิตเพื่อการคัดแยกเฉลี่ย 30,000 ตันต่อเดือน

“ขณะนี้ บริษัทฯได้เปิดดำเนินการกิจการถ่านหินที่นาดี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ บริษัทได้ระงับการประกอบกิจการการประกอบกิจการถ่านหิน ความร่วมมือปฏิบัติตามคำสั่งของทางราชการ ที่มีคำสั่งให้ระงับกิจการของผู้ประกอบการถ่านหินในจังหวัดสมุทรสาคร ทุกแห่ง ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามแนวทาง มาตรการ และขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาจากการประกอบกิจการถ่านหินที่ จังหวัดสมุทรสาคร ได้กำหนดไว้ครบถ้วนแล้ว และได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างเทศบาลตำบลนาดี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และ อำเภอเมืองสมุทรสาคร ทางจังหวัดสมุทรสาคร จึงยกเลิกคำสั่งระงับการประกอบกิจการถ่านหินของบริษัทฯ และให้บริษัทฯ ดำเนินการประกอบกิจการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่อไป ซึ่งการเปิดดำเนินการในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรวมเพิ่มขึ้น ” นายพนม กล่าว

นายพนม กล่าวอีกว่า จากกรณีที่คลังสินค้า ต.นาดี กลับมาดำเนินการได้ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ กลับมามีคลังสินค้าครบทั้ง 3 แห่งอีกครั้ง อาทิ ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะอยู่ในย่านอุตสาหกรรมเขต จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร และเขตอุตสาหกรรมปริมณฑล, คลังสินค้าที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตภาคใต้ และภาคตะวันตก ซึ่งคลังสินค้าทั้ง 2 แห่งเป็นโรงงานคัดแยกและคลังเก็บสินค้า ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโครงการท่าเรือและคลังสินค้า ที่รองรับกลุ่มลูกค้าภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยโครงการท่าเรือและคลังสินค้าดังกล่าวถือเป็นคลังสินค้าแบบประหยัดพลังงาน และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ โดยยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี และเป็นโครงการที่ลดการขนส่งด้านโลจิกติกส์ ที่สามารถช่วยลดต้นทุนได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2556 ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมยอดรายได้ จาก ต.นาดี ขณะที่แผนการขยายการดำเนินธุรกิจภายใต้คอนเซ็ปต์ 5 ปี 4 โครงการนั้น ประกอบไปด้วย การส่งออกถ่านหินไปยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็ได้มีการส่งออกถ่านหินไปยังประเทศจีน และกำลังจะขยายตลาดไปยังประเทศอินเดีย, โครงการลดต้นทุนดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเรือละคลังสินค้าระบบปิด เพื่อลดขั้นตอนในการนำเข้าให้ลดลง, การลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ คือ การเข้าลงทุนในเหมืองถ่านหิน เพื่อการรองรับการเติบโตของธุรกิจในอัตราที่สูง ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท และการลงทุนในธุรกิจปลายน้ำ โดยได้ศึกษาโครงการลงทุน โรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นต้น

สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง