“ดี-แลนด์” จัดโปรทาวน์โฮมปิดท้ายหน้าร้อน ไม่หวั่น “บิ๊กอสังหาฯ” รุกตลาด
สุเทพ ปัญญาสาคร
ดี-แลนด์ กรุ๊ป ออกแคมเปญปิดท้ายหน้าร้อน 2 โครงการทาวน์โฮม เผย 4 เดือนแรกยอดขาย 300 ล้าน ตั้งเป้า 1 พันล้านสิ้นปีนี้ ชี้เมืองขยายตัวทำดีมานด์คึกคัก ไม่หวั่น “บิ๊กอสังหาฯ” เจาะตลาด เชื่อเข้าใจท้องถิ่นดีกว่า อีกด้านใช้ระบบ “พรีคาสท์” แยกส่วนแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ย่นระยะเวลาก่อสร้าง มหาวิทยาลัยดังการันตีลูกค้ารับได้
นายสุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการบริหาร บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้กระแสการตอบรับจากลูกค้าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในกลุ่มทาวน์โฮมราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ที่สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดี ทางบริษัทจึงออกแคมเปญรับกระแสทาวน์โฮมที่กำลังมาแรงส่งท้ายหน้าร้อน โดยโครงการบ้านดี-เศรษฐกิจ ได้จัดโปรโมชั่นฟรีทุกค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้าน ส่วนโครงการบ้านดี-บางโทรัด จัดโปรโมชั่นรับเงินคืนสูงสุดถึง 50,000 บาท พร้อมราคาพิเศษจากทั้งสองโครงการ โดยเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 พ.ค.นี้
สำหรับ โครงการบ้านดี เศรษฐกิจ และ โครงการบ้านดี บางโทรัด เป็นโครงการทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์สไตล์โมเดิร์น บนพื้นที่ศักยภาพใจกลางเมืองสมุทรสาคร โดย โครงการบ้านดี-เศรษฐกิจ มีเนื้อที่โครงการรวม 25.8 ไร่ ประกอบด้วยทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์จำนวนรวมกว่า 388 ยูนิต ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.29 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 566 ล้านบาท และโครงการบ้านดี – บางโทรัด มีเนื้อที่โครงการรวม 40 ไร่ ประกอบด้วยทาวน์โฮม จำนวนรวมกว่า 456 ยูนิต ในราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 684 ล้านบาท
“แม้ว่าจะผ่านช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ไปแล้ว กระแสการตอบรับจากลูกค้าก็ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในกลุ่มทาวน์โฮมราคาล้านต้นๆ ที่สามารถตอบโจทย์การเข้าถึงได้ง่าย ทำให้กลุ่มลูกค้ามีกำลังพอที่จะซื้อบ้านในกลุ่มนี้ได้ ทางบริษัทจึงจัดเพิ่มสัดส่วนสำหรับทาวน์โฮมให้มีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของเราไปพร้อมกันด้วย” นายสุเทพ กล่าว
• ลงทุน “พรีคาสท์” แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน
ด้านนายเพิ่มเกียรติ โพธิเพียรทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาแรงงานที่ขาดแคลนในปัจจุบัน ส่งผลกระทบธุรกิจอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่า จ.สมุทรสาคร จะมีแรงงานต่างด้าวมาก แต่ก็มีหลากหลายธุรกิจ ดังนั้น แรงงานก็จะกระจายไปทั่วจังหวัด ซึ่งบริษัทได้แก้ไขปัญหาด้วยการนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูป (พรีคาสท์) มาใช้กับโครงการทาวน์โฮม โดยเริ่มจากโครงการบ้านดี เอกชัยพลัส เป็นโครงการแรก โดยเมื่อประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา เริ่มหันมาใช้ระบบพรีคาสของบริษัทฯ เอง ช่วยให้บริษัทลดระยะเวลาก่อสร้างบ้านได้ 2 เดือน จากปกติใช้ระยะเวลาสร้าง 6 เดือนเหลือ 4 เดือนต่อหน่วย
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ มีโรงงานอยู่ที่ย่านวัดนาขวาง ต.นาโคก อ.เมืองฯ พื้นที่ประมาณ 13 ไร่ และมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาเรื่องระบบ จึงมั่นใจว่าลูกค้ารับกับระบบพรีคาสได้ โดยระยะแรกใช้งบลงทุนไปแล้ว 30 ล้านบาท สามารถผลิตทาวน์โฮมได้ 30 ยูนิตต่อเดือน แบ่งออกเป็นคลัสเตอร์ละ 6 ยูนิต ซึ่งยอมรับว่าการใช้ระบบพรีคาสท์จะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 แต่เมื่อลดระยะเวลาการก่อสร้างไป 2 เดือน ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ลงตัว แต่ถ้าหากในครึ่งปีหลัง 2556 ราคาวัสดุก่อสร้างมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาบ้านก็จะปรับขึ้นมาอีกกว่าร้อยละ 10-20
• ดีมานด์สูงตามการขยายตัว-ไม่หวั่น “บิ๊กอสังหา” รุกตลาด เชื่อได้เปรียบเข้าถึงท้องถิ่น
สำหรับการแข่งขันด้านอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ จ.สมุทรสาครนั้น นายเพิ่มเกียรติ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการขยายตัวของความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองบริวารของกรุงเทพฯ มีความคึกคักมากขึ้นตามการขยายตัวของเมือง ภายหลังจากที่มีการเชื่อมโครงขาย และระบบการเดินทาง ทั้งนี้ ความต้องการที่อยู่อาศัยใน จ.สมุทรสาคร โดยมากมาจากกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ และผู้ที่เข้ามาทำงานโรงงานต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับบริหารในโรงงาน เช่น กลุ่มวิศวกร ผู้จัดการฝ่าย และหัวหน้างาน ฯลฯ โดยความต้องการของกลุ่มดังกล่าวจะเป็นที่อยู่อาศัยระดับ 2-5 ล้านบาท
ปัจจุบันเริ่มมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เข้ามาลงทุนพัฒนาบ้านเดี่ยวใน จ.สมุทรสาครชั้นในมากขึ้น ราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ทาวน์โฮม ส่วนใหญ่จะพัฒนาโดยผู้ประกอบการท้องถิ่น ทั้งนี้บริษัทไม่ได้หวั่นต่อผู้ประกอบการบางรายที่เข้ามาจับตลาดบ้านเดี่ยว เนื่องจากยังมีที่ดินสะสมที่มีศักยภาพใน จ.สมุทรสาคร ที่มีจุดเด่นและจุดขายอีกหลายแปลง อีกทั้งมีความได้เปรียบในการเข้าถึงลูกค้าในท้องถิ่นได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการเข้ามาจับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้น จำเป็นต้องปรับราคาขายลงมาจับกลุ่มตลาดล่าง 1-3 ล้านบาท ซึ่งมีปัญหาในการคุมต้นทุนการก่อสร้าง และปัญหาการขาดแรงงาน ทำให้ยากต่อการแข่งขันกับบริษัทอสังหาฯ ในพื้นที่
• ตั้งเป้ายอดขายปี 56 พันล้าน เตรียมศึกษาบ้านเดี่ยวใกล้กรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปี 2556 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดย 4 เดือนแรกมียอดขายแล้ว 300 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ขณะที่มีแผนการเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 680 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านดี เอกชัยพลัส ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 23 ไร่ พัฒนาในรูปแบบทาวน์โฮม ขนาด 20 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท จำนวน 234 ยูนิต มูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท โดยเปิดขายเฟสแรกไปเมื่อเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่าการเปิดขายเฟสที่ 2 มียอดจองแล้ว 5-6 ยูนิต จากกว่า 20 ยูนิต
ส่วนอีก 2 โครงการ เป็นอาคารพาณิชย์แบรนด์ “ดีคอมเพล็กซ์” เฟสต่อเนื่อง โครงการละ 9 ยูนิต ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการละ 50-60 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปี 2557 บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาบ้านเดี่ยวทำเลใกล้กรุงเทพฯ อีก 1 โครงการ ราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ