ลิสซิ่งมอเตอร์ไซค์สมุทรสาครแข่งดุ ทุนใหญ่บุก-เทคโอเวอร์ทุนเล็ก

ผูัประกอบการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในสมุทรสาครแข่งดุ “ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง” โดดลงมาอีกเจ้า เปิดสาขาสมุทรสาคร ด้าน “สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง” ซื้อกิจการ “ปัญญามั่นคง” 24 ล้านบาท พร้อมเปลี่ยนชื่อ “เอสจีเอฟ แคปปิตอล” เพิ่มสินเชื่อทะเบียนรถยนต์-รถจักรยานยนต์ อาศัยฐานลูกค้าชั้นดี จากจำนวนกว่า 3 พันบัญชี

รายงานข่าวแจ้งว่า การแข่งขันธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มีแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ล่าสุด นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เปิดศูนย์บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์แห่งใหม่ เลขที่ 238/7 ถ.เอกชัย ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมืองที่มีศักยภาพทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การประมงที่ทันสมัย การทำนาเกลือมากที่สุด รวมถึงการทำเกษตรกรรม ส่งผลให้มีผู้ประกอบการและนักลงทุนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก แสดงถึงความเจริญทางเศรษฐกิจ เหมาะกับการเพิ่มยอดขายและต่อยอดทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดอนุมัติสินเชื่อรวมมากกว่า 110 ล้านบาท

สำหรับบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง เปิดกิจการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2537 ทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท เป็นบริษัทในเครือของซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นการร่วมุนระหว่าง ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น, บริษัท ซูมิ-ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท ซัมมิท ออโต้ แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงทุนในกิจการขายรถยนต์ และธุรกิจเช่าซื้อ ในสองบริษัทได้แก่ บริษัท โตโยต้าซัมมิท จำกัด และบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด

– “สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง” เทคโอเวอร์ “ปัญญามั่นคง” คว้าพอร์ตลูกค้ากว่า 3 พันราย

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา บริษัท สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อกิจการ บริษัท ปัญญามั่นคง จำกัด ผู้ประกอบกิจการเช่าซื้อจำนำรถจักรยานยนต์เก่าและใหม่ ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเปิดกิจการมานานตั้งแต่ปี 2535 หรือเมื่อ 25 ปีก่อน เป็นเงิน 24 ล้านบาท โดยมีลูกหนี้ตามสัญญา เช่าซื้อ 108.4 ล้านบาท เป็นเงินต้น 61.7 ล้านบาท ดอกเบี้ย 39.6 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7.1 ล้านบาท จากลูกค้า 3,044 บัญชี โดยทั้งหมดทรัพย์ค้ำประกัน เป็นรถจักรยานยนต์

นายวิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเจเนอรัล แฟคตอริ่ง กล่าวว่า การซื้อกิจการครั้งนี้ ถือเป็นการซื้อและควบรวมไฟแนนซ์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพสูงทั้งในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ที่สำคัญมีจุดเด่นรู้จักและเข้าถึงลูกหนี้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทฯจะเดินหน้าเข้าซื้อกิจการเพื่อรุกขยายสาขา ขยายฐานลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดให้เพิ่มมากขึ้น และมีความต่อเนื่อง

“ปัญญามั่นคงโดดเด่นด้านการจัดเก็บหนี้ แต่ขาดระบบไอที และทุน รวมทั้งกู้ไม่ได้หรือกู้ได้น้อยที่ดอกเบี้ยแพง และกำลังสูญเสียศักยภาพทางการแข่งขัน หลังซื้อกิจการ บริษัทฯ จะให้เพิ่มสาขาย่อยออกเป็น 4 สาขา และกระจายพนักงาน เพื่อเพิ่มยอดสินเชื่อ ต่อพนักงาน และเพิ่มชนิดสินค้าคือ สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ และทะเบียนรถจักรยานยนต์ โดยเริ่มจากลูกค้าชั้นดีในฐานข้อมูล ที่ได้เช่าซื้อไปจนจบสัญญาแล้ว” นายวิวัฒน์ กล่าว

เดือนเมษายน 2560 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติเห็นชอบเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯ เป็น บริษัท เอสจีเอฟ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และเดินหน้ารุกธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอย่างเต็มตัว โดยเฉพาะการขยายสาขาใหม่เพื่อรองรับปริมาณความต้องการสินเชื่อที่มีอยู่สูง โดยขณะนี้มีจำนวนสาขาใหม่ทั้งสิ้นแล้ว 18 สาขา ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภายในปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายสาขาให้ได้ 60 สาขา

ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากันอยู่กับผู้ประกอบหลายราย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในเร็วๆ นี้ โดยมีเป้าหมายเข้าซื้อกิจการให้ได้ 3-4 แห่ง รวมถึงตัวเลขการปล่อยสินเชื่อคงค้างให้ได้ภายในปีนี้ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท ขณะนี้มีตัวเลขสินเชื่อคงค้างทั้งรายใหญ่และรายย่อยจำนวน 800-900 ล้านบาท และแนวโน้มยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการสินเชื่อรายย่อยยังเติบสูง ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ส่วนเรื่องหนี้เสียนั้น มองว่าไม่ได้เป็นปัญหา เพราะบริษัทฯมีระบบ การบริหารจัดการและมีความมีความเชี่ยวชาญในการดูจัดการกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

– พบบางรายหันปล่อย “สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ”

ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนใหญ่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์มักจะใช้บริการลิสซิ่งในท้องถิ่น เนื่องจากมักจะมีลิสซิ่งที่ทำประจำ มีการจัดค่าคอมมิชชั่นให้กับทางร้าน บางรายก็ทำกิจการลิสซิ่งเอง ที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ มีบริษัท สาครธนทรัพย์ และบริษัท วัฒนาธนสินทรัพย์ ครองส่วนแบ่งการตลาดในจังหวัดสมุทรสาครมากที่สุด ที่เหลือเป็นส่วนแบ่งของบริษัทสมุทรธนาคม (สปีดบาย) และไฟแนนซ์อื่นๆ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าผู้ประกอบการลิสซิ่งในจังหวัดสมุทรสาครมีดังนี้

1. บริษัท สาครธนทรัพย์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2534 ทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท ในปี 2559 มีลูกหนี้การค้าสุทธิ 105.61 ล้านบาท รายได้รวม 134.76 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 0.48 ล้านบาท

2. บริษัท ปัญญามั่นคง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2535 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ในปี 2558 มีลูกหนี้การค้าสุทธิ 167.59 ล้านบาท รายได้รวม 18.40 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 4.73 ล้านบาท

3. บริษัท สี่มิตรมหาชัย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2536 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ในปี 2557 มีลูกหนี้การค้าสุทธิ 18.94 ล้านบาท รายได้รวม 183.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1.97 ล้านบาท

4. บริษัท วัฒนาธนสินทรัพย์ จำกัด หรือ เบสท์บาย จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2544 ทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท ในปี 2558 มีลูกหนี้การค้าสุทธิ 8.93 ล้านบาท รายได้รวม 16.50 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 5.41 ล้านบาท

5. บริษัท สมุทรธนาคม จำกัด หรือ สปีดบาย จดทะเบียนเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2548 ทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท ในปี 2557 มีลูกหนี้การค้าสุทธิ 26.25 ล้านบาท ปี 2558 มีรายได้รวม 41.46 ล้านบาท กำไรสุทธิ 0.22 ล้านบาท

6. บริษัท ชนันท์ชัย กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2548 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ในปี 2558 มีลูกหนี้การค้าสุทธิ 2.69 ล้านบาท มีรายได้รวม 20.92 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 0.87 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ เข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดในจังหวัดสมุทรสาครมากขึ้น โดยร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ อาทิ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงศรีออโต้ ฯลฯ ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายหันไปเน้นธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ เช่น สปีดบาย ซึ่งจะต้องแข่งกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เปิดสาขาในจังหวัด เช่น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา, บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน), บริษัท ธนบรรณ จำกัด ฯลฯ

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง