“ธนาธร” เริ่มงานนอกสภา รับฟังปัญหาประมงมหาชัย

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเวทีรับฟังปัญหาชาวประมงสมุทรสาคร พร้อมเสนอแก้กฎหมาย หลังหยุดหน้าที่ ส.ส. ในสภา ชี้รัฐประหารแค่คำขู่ ไม่มีต้นทุนพอที่จะทำ หากเกิดขึ้นจริงจะลุกขึ้นต่อต้าน เผย 7 พรรคยังมีหวังจัดตั้งรัฐบาล วอน ส.ว. แสดงสปิริตเลือกนายกฯ หยุดสืบทอดอำนาจ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่ตลาดมั่นคง ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเวทีเสวนารับฟังปัญหาการประกอบการอาชีพประมงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยเป็นการทำงานนอกสภาเป็นครั้งแรกของนายธนาธร หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เป็นการชั่วคราว

ภายในงาน มีผู้ร่วมเสวนา อาทิ นายสมศักดิ์ รอดทยอย ประธานสภา อบจ.สมุทรสาคร, นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย, นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส. สมุทรสาคร พรรคอนาคตใหม่, ผู้แทนสมาคมการประมงสมุทรสาคร รองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ประกอบการประมงในจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งมีอดีตนักการเมืองและประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 200 คน

นายธนาธร เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นและปัญหาต่าง ๆ ของพ่อแม่พี่น้องที่ทำอาชีพประมง ซึ่งการทำงานในฐานะตัวแทนของประชาชน ไม่จำเป็นจะต้องทำในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น พวกเขาไม่ให้ตนเข้าไปทำงานในสภา ตนก็ออกมารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน หาทางแก้ไขปัญหา และเอาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้กลับไปให้เพื่อนสมาชิก ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ได้อภิปราย ตั้งกระทู้ถามในสภา และหากพวกตนเป็นรัฐบาลก็จะไปแก้ไขด้วย ตนยังทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์

ปัญหาการประมง การรับเงื่อนไข IUU ของรัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้าน ทำให้ชาวประมงหลายหมื่นครอบครัวในประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้และอาชีพการงาน ตนเชื่อว่ามีวิธีและทางออกที่ดีกว่าที่จะรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชนในภาคแรงงานอุตสาหกรรมประมง รักษาไว้ซึ่งทรัพยากรทางทะเล ในขณะเดียวกันก็ปกป้องอาชีพและรายได้ของชาวประมง ตนเชื่อว่ามีทางออกที่สามารถประสานวัตถุประสงค์ที่ต่างกันเหล่านี้ได้

เรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง ขณะนี้มีการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ที่จะนำไปสู่ความตึงเครียดได้นั้น นายธนาธร กล่าวว่า คงเป็นการขู่จากผู้นำกองทัพกับนักการเมือง ให้ยอมตามเงื่อนไขของพรรคพลังประชารัฐ ตนเรียนทุกท่านอย่างนี้ว่า ไม่มีต้นทุนทางสังคมและเหตุผลเพียงพอที่จะทำรัฐประหาร ถ้ามีการทำรัฐประหารอีกครั้ง ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่จะลุกขึ้นต่อต้าน ดังนั้นขอให้ทุกคนอย่ากังวลเรื่องข่าวลือการทำรัฐประหาร ตนอยากจะชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าในประเทศไทย ที่รักความถูกต้อง รักประชาธิปไตย หากเกิดรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง มาร่วมต่อสู้ ร่วมต่อต้านการทำรัฐประหารด้วยกัน

เรื่องของความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของฝ่าย 7 พรรคการเมือง นายธนาธร กล่าวว่า ก็มีการคุยกับพรรคอื่นอยู่ ตนเชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลยังเป็นไปได้จากในฝ่ายที่ต้องการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. คงต้องมองข้ามช็อตไปถึงบทบาทของ ส.ว. ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อย่าลืมว่าเราต่อสู้กันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2535 ให้นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถ้าวุฒิสภาแสดงสปิริตไม่โหวตนายกรัฐมนตรี การจัดตั้งรัฐบาลของฝ่ายที่ไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจ จะเป็นไปได้ ก็ฝากช่วยกันเรียกร้องสปิริตของ ส.ว.

และเรื่องของการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี นายธนาธร กล่าวว่า ยังพอมีเวลาอีกนานจนถึงการประชุมสภาฯ รอบต่อไปว่าจะเสนอใคร ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อตกลงอะไร ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญ อย่างที่บอก ตนพูดให้ทุกท่านฟังให้ชัดอีกครั้ง ฝั่งที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ได้เอาผลประโยชน์เป็นตัวตั้ง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยกันเลยว่า เสรีรวมไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงไหน เศรษฐกิจใหม่กระทรวงไหน เพื่อไทยจะได้กระทรวงไหน พรรคอนาคตใหม่จะได้กระทรวงไหน

ตนไม่ได้เอาเรื่องพวกนี้เป็นตัวตั้งเลย ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ แต่เป็นเรื่องหลักการมากกว่า ว่าเวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย คือการทำให้ประเทศกลับเป็นประชาธิปไตย เอาทหารกลับกรมกอง ดังนั้นตนฝากตรงนี้ไปถึงพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ให้เดินเข้ามาร่วมกัน ยังมีเวลา พวกตนมีเงื่อนไขน้อย ยืดหยุ่น ขอให้หลักการตรงกันว่าทิศทางที่ประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้า คือการกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย อย่าไปเป็นนั่งร้านให้กับการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ มันไม่สง่างาม  

สำหรับการรับฟังปัญหาประมงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ในเวทีเสวนาได้เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ พร้อมทั้งแก้ไขเรื่องปัญหาแรงงานในภาคประมง อีกทั้งให้มีการเยียวยาชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนฟื้นฟูการทำประมง ซึ่งนายธนาธรได้กล่าวหลังจากการรับฟังความคิดเห็นว่า เรื่อง IUU ที่รัฐบาลนำไปออกเป็น พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 และ พ.ศ. 2560 ได้ทำร้ายอุตสาหกรรมประมงทุกภาคส่วน

ซึ่งหลักการ IUU ที่รัฐนำมาบังคับใช้ผิดไปทั้งหมดก็ไม่ใช่ เพราะการทำประมงในประเทศไทยก็มีปัญหาจริง และการบังคับใช้กฎหมายเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่เคยมีการรับฟังปัญหาจากชาวประมง ซึ่งการแก้ไขจะต้องโดยยึดหลักการ 3 เรื่อง ประการแรก ทรัพยากรทางทะเลจะต้องได้รับการรักษาไว้ให้ยั่งยืน จะไปใช้หมดไม่ได้, ประการที่สอง ทรัพยากรชายฝั่งก็ต้องรักษาไว้ และประการที่สาม สิทธิมนุษยชนของแรงงานต้องรักษาไว้ด้วย

ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่มีข้อเสนอในการแก้ปัญหาประมง 4 ข้อ ได้แก่ 1.นำ พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2560 และกฎหมายลูกอื่น ๆไปแก้ไขหรือร่างใหม่ทั้งหมด โดยรับฟังความคิดเห็นจากชาวประมงและผู้เชี่ยวชาญ 2. คนที่โดนฟ้องร้องที่กระทำผิดจากกฎหมายดังกล่าวในรอบ 3-4 ที่ผ่านมา คดีต่าง ๆ ที่เกิดกับชาวประมง ต้องได้รับการทบทวนใหม่ คดีไหนที่ไม่ทำตามตัวบทกฎหมาย รู้เท่าไม่ถึงการณ์จริง ๆ ต้องมีการทบทวนและยกเลิกคดี 3. อาจต้องการทบทวนเรื่องที่รัฐทำผิด กรณีที่ใบอนุญาตและเครื่องมือถูกต้องแต่ไม่ให้ออกทำการประมง ทำให้เรือประมงเสียหาย คืนความชอบธรรมให้กับชาวประมง และ 4. การเอากองทัพออกจากการประมง เพราะเป็นเรื่องของพลเรือนหรือประชาชน

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *