
ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร หารือผู้แทนเอกอัครราชทูตเมียนมาฯ เตรียมส่งกลับแรงงานต่างด้าว 93 คน ภายในศูนย์ AAC หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน State Quarantine ประเทศเมียนมา สืบประวัติเคยมาพักอาศัยที่ศูนย์ฯ ก่อนเดินทางเข้าประเทศ
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ทาง State Quarantine ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เป็นชาวเมียนมา 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศไทย จากการสอบสวนโรคมีข้อมูลว่าเคยมาพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงของกลุ่มพันธมิตรช่วยเหลือแรงงานเมียนมา หรือ AAC (Aid Alliance Committee For Myanmar Workers) ที่ จ.สมุทรสาคร
ตนจึงได้มีการประชุมหารือข้อราชการร่วมกับ นายเย ยัน อ่าว ทูตแรงงานเมียนมาประจำประเทศไทย พร้อมด้วย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร, รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร, รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร, หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร, ผู้แทน ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ในประเด็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

เมื่อทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทางจังหวัดสมุทรสาครก็รีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนโรค และดำเนินมาตรการตรวจโรคเชิงรุกแบบ Swap หรือการตรวจจากสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูกสำหรับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว แม้ผลตรวจจะไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่เพื่อความมั่นใจ ทางจังหวัดฯ จึงได้นำบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ากักตัวไว้ในสถานที่ Local Quarantine ของจังหวัดด้วย
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผู้ที่ตรวจพบเชื้อใน State Quarantine ของประเทศเมียนมานั้น จากการตรวจสอบแล้วไม่ใช่ผู้ใช้แรงงานใน จ.สมุทรสาคร แต่เป็นแรงงานต่างด้าวที่เดินทางมาเยี่ยมญาติเป็นการชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องมีการสอบสวนโรคต่อไปว่าการติดเชื้อเกิดขึ้นในช่วงไหนกันแน่ เพื่อสร้างความชัดเจนในเรื่องของความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว
ขณะเดียวกัน นอกจากจะนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ตรวจเชื้อเข้ากักตัวแล้ว ยังได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นำทีมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจพื้นที่ศูนย์พักพิงของกลุ่ม AAC ที่มีการนำคนต่างด้าวจากหลายพื้นที่มาพักอาศัย และส่งต่อกลับประเทศโดยไม่ถูกต้อง เพราะไม่ผ่านกระบวนการสอบสวนโรค และมีความแออัดผิดสุขลักษณะ รวมจำนวน 93 คน ก็ได้ดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศเมียนมาผ่านด่านห้วยยะอุ อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วจำนวน 18 คน คงเหลือ 75 คน ซึ่งได้ข้อสรุปดังนี้
ประการที่แรก แรงงานต่างด้าวจำนวน 40 คน ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สมุทรสาคร เตรียมส่งกลับประเทศในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ โดยมีหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานประสานความช่วยเหลือคดีความตามกฏหมาย และเงินชดเชยจากนายจ้าง ส่วนทางจังหวัดสมุทรสาคร รับหน้าที่จัดเตรียมรถนำส่ง แต่ในระหว่างนี้ได้จัดที่พักและอาหาร ณ วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีตำรวจสายตรวจเวรยามรักษาการณ์อย่างแน่นหนา
ประการที่สอง แรงงานต่างด้าวจำนวน 35 คน ทางสถานทูตเมียนมาขอความอนุเคราะห์จังหวัดสมุทรสาคร ชะลอการส่งกลับไป 15 วัน เพื่อตรวจสอบข้อมูลและสิทธิ์ตามกฏหมาย ทั้งนี้ทางจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้เตรียมที่พักและการดูแลตามหลักมนุษยธรรม ไว้ 2 จุด คือ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 15 คน และที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร จำนวน 20 คน

นายวีระศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากที่การประชุมหารือเสร็จสิ้น ทางนายเย ยัน อ่าว ในนามผู้แทนเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ได้แสดงความขอบคุณจังหวัดสมุทรสาครและรัฐบาลไทย ที่ประสานการช่วยเหลือและการป้องกันโรคฯ แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นอย่างดียิ่ง อีกทั้งยังรับประสานควบคุมไม่ให้กลุ่มองค์กรเอ็นจีโอชาวเมียนมาทุกกลุ่ม นำคนมารวมตัวกันเช่นนี้อีก เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ