ไขปม “หอพักป้าเยี่ยม” ทรุดตัว วิศวกรรมสถานฯ คาดแหล่งน้ำติดกับอาคาร

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ คาด “หอพักป้าเยี่ยม” ย่านพันท้ายฯ สมุทรสาคร เกิดการทรุดตัว เกิดจากแหล่งน้ำติดกับอาคาร แต่ขอสรุปให้ชัดเจนก่อน เจ้าหน้าที่พาเจ้าของห้อง ทยอยขนทรัพย์สินทีละห้อง พร้อมเฝ้าระวังไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปในอาคาร

จากกรณีที่ “หอพักป้าเยี่ยม” อาคารความสูง 3 ชั้น จำนวน 30 ห้อง ตั้งอยู่เลขที่ 125/10 หมู่ 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งก่อสร้างมาแล้วประมาณ 5 ปี เกิดการทรุดตัวลงมา ทำให้ตัวอาคารทั้งหมดเอนเอียงไปทางด้านหลัง ซึ่งเป็นพื้นที่บ่อน้ำ ผู้พักอาศัย 58 ราย ต้องวิ่งหนีตายอย่างจ้าละหวั่น แม้เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถหยิบเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ในหอพักออกมาได้ หลังเกิดเหตุ ทางจังหวัดสมุทรสาครได้สั่งกั้นบริเวณไม่ให้ประชาชนเข้าไปในเขตพื้นที่อันตรายอย่างเด็ดขาด เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 ส.ค. ผู้ที่เช่าพักอาศัยนั้นต่างมายืนดูห้องของตนเองที่บริเวณด้านหน้าหอพัก เพราะต้องการที่จะเข้าไปเอาสิ่งของสำคัญและทรัพย์สินภายในห้อง แต่ยังเข้าไม่ได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่กันไว้ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป โดยมีนางเยี่ยม กลัดเจริญ อายุ 68 ปี เจ้าของหอพัก ได้มีการจัดทำอาหาร พร้อมน้ำดื่มกาแฟให้กับผู้ที่เช่าพักอาศัยได้รับประทานฟรี รวมถึงมอบเงินสดคนละ 400 บาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งเจ้าของหอพักบอกว่า อย่างไรก็ต้องดูแลกันไป จะไม่ทิ้งผู้ที่เช่าพักอาศัยอย่างแน่นอน

ต่อมาเมื่อเวลา 10.45 น. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการประชุมหารือทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์, น.ส.สุภัทรา ชัยเทวารัณย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร, นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าของหอพัก เพื่อสรุปสาเหตุแนวทางการแก้ไขและการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ที่ อบต.พันท้ายนรสิงห์

ส่วนทางด้าน ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมเจ้าหน้าที่และวิศวกรอาสา ได้นำเครื่องมือเข้ามาตรวจประเมินการทรุดตัวของอาคาร ซึ่ง ดร.ธเนศ กล่าวว่า อาคารดังกล่าวมีการทรุดลงอีกเล็กน้อย แต่ยังพอจะสามารถให้คนเข้าไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นออกมาได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจจะมาจากเรื่องของแหล่งน้ำที่อยู่ติดกับตัวอาคาร ทำให้เกิดการบิดตัวของโครงสร้างจนอาคารทรุดลงดังกล่าว แต่ต้องรอผลการตรวจสอบและสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง

หลังจากการประเมินการทรุดตัวของอาคารเสร็จสิ้น ทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ ก็ได้เริ่มปฏิบัติงานนำทรัพย์สินออกจากอาคาร โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ พร้อมทีมงาน เข้าไปกับเจ้าของห้องแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อเร่งขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นและมีค่าออกมาก่อน อาทิ เสื้อผ้า เงิน ทองคำ และเอกสารทางราชการ และจะมีเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งช่วยนำสิ่งของเครื่องใช้ที่อยู่ในห้องตามออกมาภายหลัง โดยเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 เรื่อยลงมาจนถึงชั้นล่างสุด นอกจากนี้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน พร้อมมอบสิ่งของและให้กำลังใจแก่ผู้ที่เช่าพักอาศัยด้วย

นายธีรพัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมโดยสรุปว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้รับมอบหมายจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้ประชุมหารือทุกภาคส่วนเพื่อรวบรวมกระบวนการงานและกำหนดขั้นตอนในการทำงาน และทาง วสท. ได้มาช่วยตรวจประเมินการทรุดตัวของอาคาร แจ้งว่ายังมีการทรุดตัวอยู่แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ไม่สามารถนำคนเข้าไปได้ ดังนั้นจึงให้ทีมกู้ภัยของ อบต.พันท้ายนรสิงห์ จัดทีมเพื่อที่จะขนสิ่งของผู้ที่เช่าพักอาศัยออกมาจากตัวอาคารจำนวน 30 ห้อง วันนี้น่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ อบต.พันท้ายนรสิงห์ได้มีการเฝ้าระวัง และไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปในตัวอาคาร ยกเว้นทีมกู้ภัยเท่านั้น ทั้งนี้ ในวันที่ 21 ส.ค. จะได้มีการประชุมอีกครั้งเพื่อสรุปผลว่าสาเหตุของการทรุดตัวของอาคารในครั้งนี้เกิดจากอะไร

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *