หนุ่มลูกจ้างแก๊งทวงหนี้โผล่เข้าพบตำรวจสมุทรสาคร พาชี้ห้องจุดเกิดเหตุ

ตำรวจสมุทรสาคร นำชายวัย 30 ปี ผู้เสียหายถูกแก๊งทวงหนี้ทำร้ายร่างกายมาสอบปากคำ พร้อมพาไปชี้จุดเกิดเหตุ เจ้าตัวเผยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อต้น ก.พ. ที่ผ่านมา ไม่ได้แจ้งความและไปหาหมอ แค่ซื้อยามากิน-นอนรักษาตัว 3 วัน

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รักษาการ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร มอบหมายให้ พ.ต.อ.ณวัฒน์ ศุกลรัตน์ ผกก สส.ภ.จว.สมุทรสาคร และชุดสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร กับ สืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมกันพานายต้นกล้า ใจฉ่ำ อายุ 30 ปี ชาว อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ มาให้ปากคำที่ห้อง ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร โดยมี พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ เครือวนิชธรรม ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร และพนักงานสอบสวนฯ ร่วมสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป ซึ่งนายต้นกล้า เป็นผู้เสียหายจากกรณีถูกชายคนหนึ่ง ถูกระบุว่าเป็นแก๊งเงินกู้ของบริษัทแห่งหนึ่งทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกเป็นคลิปวีดิโอแล้วมีการแชร์ในโลกโซเชียล จนถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม

ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รักษาการ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้พาตัวผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุที่ถูกทำร้ายร่างกายที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยศรีสวัสดิ์ หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร มีกำแพงเป็นรั้วรอบขอบชิด ภายในปลูกสร้างเป็นอาคาร 2 ส่วน ส่วนแรกมีลักษณะคล้ายห้องเช่า 2 ชั้น แต่ละห้องยังพบเสื้อผ้าแขวนอยู่เต็มไปหมด ขณะที่อีกส่วนเป็นอาคารชั้นเดียว ด้านหน้าห้องมีรองเท้าผ้าใบหลายสิบคู่ มีหมวกกันน๊อค และมีอุปกรณ์สำหรับใช้ทำครัว ภายในห้องดังกล่าวคือสถานที่ ๆ ใช้เป็นห้องทำร้ายร่างกายของนายต้นกล้า ตามที่เห็นภาพในคลิป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพภายในห้องดังกล่าวเช่นกัน

พ.ต.อ.สุรพงษ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสมุทรสาคร ก็ได้กระจายกำลังกันลงพื้นที่สืบหาข้อมูล จนทราบว่าบริษัทที่เป็นข่าวเปิดรับสมัครพนักงานเก็บเงินไม่ได้มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร แต่มีสาขาอยู่ที่ จ.สมุทรสาครจริง และสถานที่ที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายก็เกิดขึ้นที่ จ.สมุทรสาคร จึงได้ขอหมายศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นสถานที่ที่ใช้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่พบอะไรที่จะเชื่อมโยงเป็นหลักฐานได้

จนกระทั่งต่อมาทราบว่าผู้เสียหายเป็นใคร จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. และ ตำรวจสืบสวนกลาง ไปนำตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำ จนในที่สุดผู้เสียหายก็ยอมรับว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่เดียวกับในคลิปภาพ และผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายจริง เมื่อประมาณต้นเดือน ก.พ. 2563 ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม เพื่อดำเนินคดีกับชายที่ปรากฏในคลิป ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ  โดยผู้เสียหายประสงค์จะมอบคดีให้เป็นไปตามกฏหมาย ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับเงินกู้นั้น จะต้องแยกเป็นอีกคดีหนึ่งที่จะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครอบคลุมและชัดเจนก่อน

ทางด้าน นายต้นกล้า ใจฉ่ำ ผู้เสียหายบอกว่า ตนเป็นลูกจ้างในบริษัทเงินกู้แห่งหนึ่ง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. 2563  ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บ สภาพบวมช้ำ หลังเกิดเหตุไม่ได้เข้าแจ้งความ ซื้อยามาทานและนอนพักรักษาตัวประมาณ 3 วัน พออาการบาดเจ็บหายก็ไปทำงานกับบริษัทเงินกู้เหมือนเดิม รอจนเงินเดือนออกจึงได้กลับไปอยู่กับครอบครัวในต่างจังหวัด ตอนนี้ตนยังรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนสาเหตุของการถูกทำร้ายร่างกายนั้นตนยังไม่ขอตอบ

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *