
สสจ.สมุทรสาคร นำหญิงอายุ 25 ปี ตรวจหาเชื้อ-กักตัว 14 วัน หลังทราบว่านั่งรถตู้หมอชิต-ราชบุรี คันเดียวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ฝากประชาชนอย่าลืมหน้ากาก จุดคัดกรอง และแอปฯ ไทยชนะ
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่ข้อความรายชื่อผู้โดยสารรถตู้หมอชิต-ราชบุรี คันเดียวกับ ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จากประเทศเมียนมา ที่ลักลอบเดินทางเข้าประเทศโดยสารมาเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในรายชื่อดังกล่าวเป็นผู้หญิง อายุ 25 ปี อาศัยและทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จากการตรวจสอบพบว่าทางจังหวัดสมุทรสาคร โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร (สสจ.สมุทรสาคร) ได้มีนำหญิงคนดังกล่าวไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เบื้องต้นผลการตรวจแล็บของโรงพยาบาลสมุทรสาครไม่พบเชื้อโควิด-19
ทางด้าน นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ฝากถึงพี่น้องประชาชนให้อย่าลืมมาตรการสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1. หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 2. จุดคัดกรอง และ 3. แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ซึ่งเป็นเหมือนวัคซีนอยู่ในตัวอยู่แล้ว และแคมเปญ “วัคซีนรอปีหน้า หน้ากากผ้าใช้ได้เลย” สำหรับมาตรการเพิ่มเติมจากนี้ คือ เพิ่มความเข้มงวดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และนำมาตรการจับ-ปรับผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าขึ้นมาใช้อีกครั้ง โดยในวันที่ 8 ธ.ค. 2563 จะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครเป็นการเร่งด่วน เพื่อรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการฯ เพิ่มเติม
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยืนยันว่าการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมีแน่นอน และจะระบาดมาถึง จ.สมุทรสาครด้วย วันนี้หลายคนบอกว่าโควิด-19 ไม่มีแล้ว เมืองไทยปลอดภัยแล้ว และที่ จ.สมุทรสาครไม่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ถึง 236 วัน ไม่ต้องสนใจเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ ฯลฯ ในวันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นความคิดที่ผิด ตอนนี้เกิดการระบาดขึ้นในหลายจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน แสดงให้เห็นว่าสมุทรสาครเป็นจุดที่อันตรายที่สุด แต่จุดอันตรายที่สุดจะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดได้ ถ้าทุกคนร่วมมือกันในเรื่องการป้องกันตนเอง ดังนั้นอยากฝากไปถึงพี่น้องชาวสมุทรสาครว่า วัคซีนที่ดีที่สุดอยู่ในมือของพวกเราเองแล้ว ไม่ใช่วัคซีนที่รอฉีด แต่คือมาตรการ 3 เรื่องตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง