
“สนธิญา สวัสดี” ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร ทีมประชารัฐฯ เบอร์ 5 ขึ้นรถแห่ออกหาเสียงเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้าย ชูนโยบาย “สมุทรสาครต้องมาก่อน” เผยเคยลงเลือกตั้ง ส.ส. แล้ว 3 ครั้ง หากไม่ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ. จะขอทำงานการเมืองในจังหวัดครั้งสุดท้าย
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายสนธิญา สวัสดี ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร หมายเลข 5 ทีมประชารัฐ สมุทรสาคร นำทีมผู้ช่วยหาเสียงขึ้นรถแห่หาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 โดยเดินทางไปยังชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ตำบลบ้านบ่อ กาหลง หลักห้า บ้านแพ้ว อำแพง และท่าจีน

นายสนธิญา เปิดเผยว่า ในฐานะที่ทำงานการเมืองในจังหวัดสมุทรสาครมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตนเคยลงสมัคร ส.ส. มาแล้ว 3 ครั้ง คราวนี้ตนลงสมัครนายก อบจ.สมุทรสาคร ประเด็นหลัก ๆ คือจะเห็นปัญหาของจังหวัดสมุทรสาคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการใน อบจ. ในเรื่องของโรงงานอุตสาหกรรมที่มาดำเนินกิจการในจังหวัดสมุทรสาคร แล้วมิได้ทำประโยชน์กับพี่น้องประชาชนสมุทรสาคร มาสร้างปัญหาขยะ มลภาวะ น้ำเสีย ฝุ่น PM2.5
สิ่งเหล่านี้จะต้องชี้ให้คนสมุทรสาครเห็นว่า อบจ. สามารถเข้าไปบริหารจัดการตรงนี้ให้กับพี่น้องประชาชนได้ การหาเสียงในช่วงสุดท้ายจะต้องเข้าถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดในทุกประเด็น ที่ผ่านมาตนเข้าหาพี่น้องประชาชนในเรื่องของการเดินลงพื้นที่ชุมชนสำคัญ หรือตลาดนัด หรือการปราศรัย ซึ่งการเดินหาเสียงจะไม่เหมือนกับผู้สมัครรายอื่น จะมีการอภิปรายให้ฟังถึงนโยบายว่าจะทำอะไรบ้าง

ส่วนนโยบายที่อยากจะผลักดันมีอยู่ 3-4 ประเด็น ได้แก่ อบจ. จะต้องมีงบประมาณเพิ่มขึ้น ด้วยการกวดขันผู้ที่มาประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่สมุทรสาคร ว่าได้คืนอะไรให้กับสมุทรสาครบ้าง เช่น กรณีการจ่ายภาษีให้กับสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ แต่สมุทรสาครได้มลพิษกลับมา สิ่งเหล่านี้ อบจ. จะต้องเข้าไปดูแลจัดเก็บภาษีให้เป็นประโยชน์ต่อชาวสมุทรสาครมากที่สุด
ในกรณีของแรงงานต่างด้าว ก็จะให้ทาง อบจ. บริหารจัดการดูแล เช่น การจัดสร้างนิคมของคนต่างด้าวให้อยู่รวมกันมากที่สุด และต้องไม่มาประกอบธุรกิจแข่งกับคนไทย เพราะ อบจ. เป็นนิติบุคคล สามารถออกกฎหมายที่จะบังคับใช้ในจังหวัดได้ ดังนั้นตนจึงมีนโยบาย “สมุทรสาครต้องมาก่อน” หรือ SAMUTSAKHON FIRST ซึ่ง อบจ. จะต้องให้ความสำคัญกับคนสมุทรสาครมาเป็นอันดับหนึ่งทุกเรื่อง

ทั้งนี้ ตนฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาครทั้งจังหวัดว่า ในการเลือกนายก อบจ.สมุทรสาคร ท่านต้องดูว่าใครใกล้ชิดกับท่านมากที่สุด ใครทำงานมากที่สุดในพื้นที่ จะประสานกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้หรือไม่ ด้วยเหตุผลว่า นายก อบจ. มีอำนาจอยู่ในกรอบจำกัด ดังนั้นนายก อบจ. ต้องมีเส้นสาย หรือประสานงานกับฝ่ายรัฐบาล กระทรวงต่าง ๆ สิ่งสุดท้ายที่ตนจะกราบเรียนพี่น้องประชาชนคนสมุทรสาคร ตนตั้งความหวังไว้ก่อนหน้านี้ว่า ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของตนในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นนายก อบจ. หรือ ส.ส. พูดสั้น ๆ ว่าน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ตนทำงานการเมืองในสมุทรสาครแล้ว
เพราะตนทำอะไรให้คนสมุทรสาครค่อนข้างเยอะ แล้ววันนี้ตนมาขอโอกาสที่จะทำงานในตำแหน่งนายก อบจ.สมุทรสาคร เมื่อเห็นปัญหาต่าง ๆ ตนสามารถทำได้ ที่ผ่านมาตนไม่ได้เป็นอะไรก็ตามตนก็ทำได้ ไม่ว่าจะเรื่องกำแพงป้องกันน้ำท่วม ฟ้องถ่านหินไม่ให้เข้าสมุทรสาคร ขยายถนนสหกรณ์เป็น 4 ช่องจราจร หรือทำกำแพงป้องกันน้ำท่วมหน้าวัดกำพร้า

ถ้าในครั้งนี้ตนลงสมัคร และไม่ได้รับเลือกด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็เท่ากับว่าตนต้องพิจารณาตนเองแล้ว ก็จะไม่ทำงานการเมืองในสมุทรสาครอีกแล้ว แต่งานการเมืองของตนจะไม่ยุติเพียงเท่านี้ อาจจะไปทำงานการเมืองในกรุงเทพฯ โดยจัดตั้งพรรคการเมืองหรือที่เกี่ยวข้องอีกทีหนึ่ง แต่ในเรื่องของการดูแลสารทุกข์สุกดิบ พี่น้องประชาชนสามารถไปหาตนได้ตลอดเวลา แต่ถ้าประชาชนชาวสมุทรสาครให้โอกาส ก็ขอให้เลือกหมายเลข 5 ทีมประชารัฐสมุทรสาคร ก็จะสามารถประสานงานได้ทุกระดับ
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง