ผอ.รพ.สมุทรสาคร แจงอาการผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ รุนแรงเล็กน้อยถึงปานกลาง ก่อนหน้านี้อ่อนเพลีย แต่พอหลับแล้วตื่นมาก็สดชื่น ยิ้มแย้มเหมือนเดิม เผยต้องการตรวจโควิด-19 ตั้งแต่วานนี้ เพราะจะได้บอกว่าไม่ได้เกิดจาก “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ที่กำลังจัดตั้งขึ้น ฝากขอบคุณคนสมุทรสาครที่ห่วงใย การ์ดอย่าตก ต้องตั้งศูนย์ห่วงใยคนสาครให้ได้
วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร พร้อมด้วย นพ.ธนพัฒน์ พวงเพชร รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โรงพยาบาลสมุทรสาคร และ พญ.อินทิรา มัสยวานิช นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสมุทรสาคร ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดย นพ.อนุกูล กล่าวว่า อาการของผู้ว่าฯ สมุทรสาครขณะนี้รุนแรงน้อยถึงปานกลาง ก่อนหน้านี้มีอาการอ่อนเพลียเพราะทำงานหนัก พอได้นอนหลับเช้านี้ก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ก็พูดคุยยิ้มแย้ม สนุกสนานเช่นเดิม เพียงแต่ว่ามีอาการอ่อนเพลียมา 2-3 วันเพราะทำงานหนักมาก ลุยงานหนักตลอด อาการทั่วไปดีขึ้น ส่วนจะมีการส่งต่อไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ หรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางแพทย์
ส่วนบุคคลผู้สัมผัสใกล้ชิด ทีมสอบสวนโรคของสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครจะดำเนินการตามหลักฐาน ส่วนจะได้รับเชื้อมาจากไหนยังไม่ทราบ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ว่าฯ สมุทรสาครทำงานลงพื้นที่ มีความเสี่ยงโดยลักษณะงานอยู่แล้ว ซึ่งทางทีมสอบสวนโรคจะต้องหาสาเหตุ นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ยังฝากชาวสมุทรสาครว่า อย่างไรก็จะต้องตั้งศูนย์ห่วงใยคนสาครให้ได้ และขอบคุณทุกคนที่แสดงความห่วงใย ให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนการ์ดอย่าตก
“ผมเข้าไปเยี่ยม อยู่ด้วยตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อตอนเที่ยงก็เข้าไปเยี่ยม จริงๆ ตั้งแต่เมื่อวานท่านแจ้งผมว่าขอตรวจ จึงตรวจเมื่อวานตอนเย็น ที่ขอตรวจเพราะให้เหตุผลว่าเนื่องจากเราเตรียมที่จะดำเนินการเรื่องศูนย์ห่วงใยคนสาคร ซึ่งอยู่ใกล้บ้านท่าน ท่านก็อยากจะตรวจก่อน เพื่อที่จะถ้าสมมติว่าพบสารพันธุกรรม ก็จะได้ชัดเจนว่าไม่ได้เกิดจากศูนย์ห่วงใยคนสาคร ถ้าเกิดพบเชื้อแล้วจริงๆ ก็จะได้บอกว่า นี่ไง คือความจำเป็นที่จังหวัดสมุทรสาครจะต้องมีศูนย์ห่วงใยคนสาคร เพราะว่าถ้าเรามี ก็จะมีสถานที่ๆ จะแยกเพื่อควบคุมโรคได้ดีขึ้น” นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร
ในตอนหนึ่ง นพ.อนุกูล กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ติดตามบุคคลที่สัมผัสใกล้ชิด ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรค พร้อมกับให้คำแนะนำว่าจะปฏิบัติตนอย่างไร โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก็จะต้องกักตัวเอง และมีการตรวจหาเชื้อด้วยการสวอบ (Swob) ขณะนี้ผลการค้นหาเชื้อยังไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าผู้ว่าฯ สมุทรสาครได้รับเชื้อมาจากไหน
ส่วนสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวติดตามผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดนั้น นพ.อนุกูล กล่าวว่า ทีมสอบสวนโรคจะให้คำแนะนำ เบื้องต้นต้องประมวลว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ เช่น ไอจามใส่กันโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันถือว่ามีความเสี่ยงสูง หรือพูดคุยกันในระยะ 1 เมตรโดยไม่ได้สวมหน้ากากป้องกัน อยูในห้องประชุมแบบปิดโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันในระยะ 5 เมตร ตามเกณฑ์ของกรมควบคุมโรค ซึ่งทีมสอบสวนโรคจะลงไปพูดคุย โดยทั่วไปกลุ่มเสี่ยงสูงจะกักตัวเข้มข้น ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำจะให้เว้นระยะ ถ้าเป็นไปได้ก็จะแนะนำให้ทำงานที่บ้าน แต่ต้องสวมหน้ากาก 100%
ด้าน พญ.อินทิรา มัสยวานิช นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวถึงอาการของผู้สูงอายุหญิง ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงวัย 95 ปี มารดาของแม่ค้าอาหารทะเล ที่เป็นผู้ติดเชื้อรายแรกของจังหวัดสมุทรสาครระลอกใหม่ ระบุว่า ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่จะทำให้มีอาการรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงอายุทุกรายจะต้องมีอาการรุนแรงจนเสียชีวิต เนื่องจากได้พบเคสในโรงพยาบาลสมุทรสาครค่อนข้างเร็ว แล้วเครือญาติที่อาศัยในครอบครัวเดียวกันมาตรวจ ทำให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยค่อนข้างเยอะ เกิดการรักษาประคับประคองโดยเร็วจนอาการดีขึ้น
การระบาดระลอกใหม่เพิ่งเริ่มมาได้สักระยะ รวมแล้วอาจจะเข้าสู่วันที่ 10 โดยทั่วไปจะเริ่มมีเรื่องของปอดอักเสบ คนที่มีความเสี่ยงจะเริ่มมีอาการที่แย่ลง ทางการแพทย์อยู่ในระดับ 7-8 ขึ้นไป ลักษณะการดำเนินของโรคอาจจะคล้ายคลึงเดิมอยู่ เพียงแต่ว่าลักษณะความรุนแรงส่วนหนึ่งอาจจะมาจากสายพันธุ์ของเชื้อ ที่มีการถอดรหัสพันธุกรรมแล้วทราบว่าเป็นเชื้อในจุดที่มีการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว แต่อาการยังไม่หนัก อย่างไรก็ตาม คนไทยทุกคนอย่าเพิ่งการ์ดตก เพราะถึงแม้ว่า ณ เวลานี้จะยังไม่มีเคยผู้เสียชีวิต แต่ทุกคนจำเป็นต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่างต่อไป เพราะในจังหวัดต่างๆ ที่เริ่มมีเคสกระจายมาจากตลาดที่สมุทรสาคร ก็จะค่อยๆ ทยอยเข้าสู่วันที่ 7-10 ตามมา ซึ่งแต่ละจังหวัดก็เริ่มเตรียมรับมือผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบในเร็วๆ นี้ด้วย
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ