
รองนายกฯ และ รมว.สธ. นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ที่สมุทรสาคร เผยมีแนวโน้มดีขึ้นจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก ชื่นชมพลังบุคลากรสาธารณสุขที่ร่วมช่วยกัน ส่วนเรื่องวัคซีนยังเป็นไปตามแผนและยังหาเพิ่มเติม
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ก.พ. 64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร ลงพื้นที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในพื้นที่ โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นพ.ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยโรงพยาบาลกระทุ่มแบน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ





ในการนี้ นายอนุทิน และคณะ รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ และมอบหน้ากากอนามัย 10,000 ชิ้น และชุด PPE 250 ชุด ให้กับโรงพยาบาลกระทุ่มแบน รวมถึงเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวภายในหอผู้ป่วยเฉพาะกิจโควิด-19 และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นข้าราชการบรรจุยุคโควิด-19 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลกระทุ่มแบน จำนวน 112 คน และ รพ.สต. จำนวน 17 คน จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 7 อบต.ท่าทราย เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน รวมถึงให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานภายในศูนย์ฯ รวมถึงดูความพร้อมในพื้นที่ส่วนเพิ่มเติม เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก




นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ตนและคณะผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข ได้มาลงพื้นที่ในเขตจังหวัดสมุทรสาคร มาดูการทำงานของทีมงานที่นี่ หลังจากรับฟังการบรรยายสรุป ก็ได้เห็นแนวโน้มของการควบคุมโรคโควิด-19 ในจังหวัดนี้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้ยังพบผู้ป่วยในแต่ละวันเป็นจำนวนหลายร้อยคน เนื่องมาจากการตรวจหาโรคเชิงรุก (Active Case Finding) ถ้าเจอผู้ติดเชื้อแล้วก็มีวิธีบริหารจัดการ คือ ล้อมกรอบไว้แล้วคัดแยกคนที่มีอาการ ถ้าเป็นคนไทยก็เข้าโรงพยาบาลของรัฐ ถ้าเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีจำนวนเยอะก็จะจัดโรงพยาบาลสนามไว้ให้ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการรักษาพยาบาล ส่วนคนที่เหลือเราก็จะให้อยู่ในโรงงานแห่งนั้น ซึ่งเขาก็จะสามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่มีผลกระทบต่อรายได้
โดยมีทีมแพทย์ของจังหวัดสมุทรสาคร และจากเขตสุขภาพที่ 5 เสริมกำลังด้วยทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขในหลายจังหวัดที่อาสามาช่วยที่นี่ ทำให้สถานการณ์ดูดีขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ขอให้ทุกท่านได้รักษาพฤติกรรมแบบ New Normal ต่อไป ยังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และพยายามอยู่ห่างจากสถานที่แออัดของผู้คน ก็สามารถลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ รวมถึงอย่าหลีกเลี่ยงกฎหมาย ทำตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งจังหวัดสมุทรสาครยังมีกฎระเบียบเพื่อทำให้จังหวัดมีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ ถ้าเช่นนี้คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน



ส่วนความพร้อมของโรงพยาบาลใน จ.สมุทรสาคร มีโรงพยาบาลหลักที่มีมาตรฐานสูงในจังหวัด 4 แห่ง สำหรับโรงพยาบาลกระทุ่มแบนนั้น ได้ใช้ประโยชน์ของอาคารหลังใหม่ซึ่งเพิ่งสร้างแล้วเสร็จ ถือโอกาสใช้เป็น Cohort Ward รองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมทั้งมีห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ที่สามารถตรวจหาเชื้อได้เลย ทำให้ระยะเวลาค้นพบผู้ติดเชื้อสั้นลง
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสมุทรสาครถือว่ามีความสามารถในการควบคุมโรคโควิด-19 ที่ดี เพราะว่าการกระจายของเชื้อไปยังท้องที่อื่นเป็นในลักษณะประปรายเป็นประกายไฟ ก็สามารถดับได้ในทุกจุด การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ตามโรงงานต่าง ๆ ก็ใช้มาตรการ Factory Quarantine และมาตรการ Bubble and Sealed ให้อยู่ภายในพื้นที่ คัดแยกผู้ป่วยไปตามโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจัดเตรียมไว้หลายพันเตียง และยังสามารถจัดตั้งโรงพยาบาลสนามได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ขอบคุณทางจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ก็มีบรรดาบุคลากรทางสาธารณสุขที่อยู่ในเขตที่มีความเสี่ยงน้อยหรือไม่มีความเสี่ยง ก็รวมตัวกันลงมาช่วยในจังหวัดสมุทรสาคร นี่คือพลังของกระทรวงสาธารณสุข พลังความทุ่มเทของบุคลากรทางสาธารณสุขทุกคน ที่มีความห่วงใยต่อประชาชนและประเทศชาติ ต้องการให้สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว





ส่วนระยะเวลาที่ประเมินไว้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงต่ำกว่าหลักสิบนั้น ก็คงไม่ต้องไปประเมิน สถานการณ์ดีขึ้นทุกวัน เราทำสุดความสามารถ จะเจอกี่คนก็แล้วแต่ ขอให้เจอ ล็อกตัวไว้ไม่ให้สามารถไปแพร่เชื้อที่ไหน ถ้ามัวแต่ดูตัวเลขว่าวันนี้จะติดกี่คนจะเป็นการเล็งผิดเป้า เพราะว่าแทนที่จะใช้ระบบในการควบคุมดูแล กลับไปดูว่าเราจะเดินไปไหนต่อไหน ถ้าโฟกัสให้ถูก จะติดเชื้อกี่คนก็แล้วแต่ก็ห้ามหลุดออกไปจาก จ.สมุทรสาคร แล้วใช้เวลาให้ผู้ติดเชื้ออยู่ในที่กักกันเพื่อควบคุมโรค 10 วัน ปล่อยให้กลับไปสังเกตอาการที่บ้านอีก 4 วัน แล้วใช้เวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ในการ Social Distancing กับผู้คน เพื่อให้เกิดความแน่ใจอย่างสูงสุด ก่อนจะกลับไปทำงานตามเดิม
เรื่องของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดนำร่องที่ได้รับวัคซีนก่อนนั้น เพราะถือว่าเป็นจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง ก็ต้องให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ ก็ยังมั่นใจว่าการให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนยังเป็นไปตามแผนในเดือน มิ.ย. นี้ แล้วยังพยายามทำให้เร็วขึ้นด้วยการหาจำนวนวัคซีนเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นที่สามารถเจราจาและหาได้ให้เร็วที่สุด



สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง