สมุทรสาครพร้อม 15 ก.พ. 64 ตรวจหาแอนติบอดี ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ตั้งเป้าวันละ 8,000 ราย เฉพาะกลุ่ม Bubble & Seal
ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 64 จะระดมตรวจหาแอนติบอดี หรือภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ โดยตั้งเป้าว่าในช่วง 5 วันแรก จะตรวจหาภูมิคุ้มกันวันละ 8 พันคนขึ้นไป มีกลุ่มเป้าหมายราว 40,000 คน ซึ่งแต่ละคนจะต้องตรวจซ้ำ 2 ครั้ง มีระยะเวลาในการดำเนินการ 2 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 64 นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร ชี้แจงว่า แผนการตรวจนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครได้มีการเตรียมการตรวจพร้อมแล้ว โดยจะใช้วิธีตรวจทั้งหมด 3 วิธี คือ 1. Rapid Test เป็นการตรวจที่หน้างาน จะตรวจด้วยวิธีนี้ประมาณ 30,000 ราย ทราบผลภายใน 3 ชั่วโมง, 2. ตรวจแบบอิไลซา (ELISA) โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 30,000 ราย เป็นการทดสอบที่ใช้แอนติบอดีและการเปลี่ยนแปลงของสีในการวิเคราะห์หรือหาตัวตนของสาร นิยมใช้ในการหาความเข้มข้นของแอนติเจนในสารละลาย และเป็นวิธีที่ใช้สำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์ รวมไปถึงการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ในโรงงานเช่นกัน ทราบผลภายระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน และ 3. ตรวจแบบ neutralizing antibody โดยแลปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จำนวน 2,000 ราย ทราบผลภายในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับการตรวจแบบอิไลซา
นพ.อนุกูล กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจหาภูมิคุ้มกันนั้น เหตุผลหนึ่งคือ เพื่อการศึกษาและวิจัยลักษณะการเกิดภูมิคุ้มกันของโรค รวมถึงวิเคราะห์ระยะเวลาหรืออายุของภูมิคุ้มกัน และอาจนำไปสู่มาตรการที่จะผ่อนคลายมากขึ้นในสมุทรสาคร โดยการตรวจหาภูมิคุ้มกันนี้จะใช้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่ม Bubble & Seal ซึ่งเคยตรวจหาเชื้อแล้วผลเป็นลบหรือไม่พบเชื้อเท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง และไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย ไม่มีความจำเป็นจะต้องตรวจหาภูมิคุ้มกันนี้
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ