อำลา “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 3 วัฒนาแฟคทอรี่ แพทย์-พยาบาลผู้ดูแลศูนย์ฯ เผย รอยยิ้มจากผู้ป่วย คือความประทับใจที่ไม่มีวันลืม
วันนี้ (3 มี.ค. 64) เวลา 16.30 น. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ในฐานะเจ้าของโครงการวัฒนาแฟคตอรี่ นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แพทย์-พยาบาล รพ.บ้านแพ้ว และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปิดศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 3 วัฒนาแฟคตอรี่ อย่างเป็นทางการ หลังจากที่จังหวัดสมุทรสาคร มีคำสั่งยกเลิกการดำเนินงานไปเมื่อ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา
นพ.ชลิต บุญพร้อมกุล อายุรแพทย์ รพ.บ้านแพ้วฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 3 บอกว่า ตอนแรกที่ได้รับมอบหมายในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ นั้น รู้สึกว่าน่าจะเป็นงานที่หนักและท้าทายอยู่พอสมควร แต่พอได้มาทำแล้วก็ได้รับความร่วมมือและความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ทีม รพ.บ้านแพ้วที่แข็งแกร่ง สามารถฟันฝ่ามาได้จนถึงวันที่ร่วมกันส่งคนไข้คนสุดท้ายกลับบ้านแล้วส่งมอบศูนย์ฯ คืนสู่ทางท้องถิ่น จึงทำให้รู้สึกปลาบปลื้มใจและภูมิใจที่ได้มาทำงานในจุดนี้ ส่วนความประทับใจที่จะไม่มีวันลืมเลยคือ รอยยิ้มทั้งของทีมงานและของผู้ป่วยในวันสุดท้ายที่ได้กลับบ้าน ซึ่งพวกเขาดีใจกันมาก จึงเป็นภาพที่ประทับใจของเจ้าหน้าที่ทุกคน
นพ.ชลิต กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น อยากให้ทุกคนมองว่าพวกเขาก็คือคนไข้คนหนึ่งเหมือนคนธรรมดาทั่วไป หากเรารู้จักการป้องกันทั้งตัวเราและตัวผู้ป่วยไม่ให้ติดเชื้อกัน มีการป้องกันด้วยการใส่หน้ากากและเว้นระยะห่าง แค่นี้ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ สุดท้ายนี้ก็ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนมีทั้งเหนื่อย ท้อ และเครียด แต่ทุกคนก็พยายามปรับตัวและแก้ไขจนผ่านพ้นกันมาได้ตลอด อีกทั้งยังมีการสร้างกำลังใจให้แก่กันด้วยการช่วยเหลือกัน ปรึกษาหารือ ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ถ้าปัญหาใดที่เกินความสามารถก็จะปรึกษาผู้อำนวยการโรงพยาบาล จนได้รับคำแนะนำแล้วแก้ไขให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า วันนี้เราได้มาทำการปิดศูนย์ฯ แห่งนี้อย่างเป็นทางการ ถือได้เป็นศูนย์แห่งต้น ๆ ของจังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ที่มอบโกดังส่วนตัว 2 โกดัง ให้มาปรับเป็นโรงพยาบาลสนาม ขนาด 240 เตียง ในช่วงที่จังหวัดประสบปัญหาวิกฤติช่วงแรก ๆ ซึ่งเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของจังหวัดได้เป็นอย่างมาก ทำให้เรามีสถานที่ในการกักตัวผู้ติดเชื้อ สามารถควบคุมการระบาดได้เร็วยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังต้องขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ รพ.บ้านแพ้วฯ ทุกคน ที่ได้ช่วยเหลือดูแลผู้ติดเชื้อมาเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน
ส่วนนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ในฐานะเจ้าของโครงการวัฒนาแฟคตอรี่ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับพื้นที่คืนจากทางจังหวัดสมุทรสาคร และทางจังหวัดได้เข้ามาดำเนินการขนย้ายข้าวของภายในออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนเองก็จะได้เข้าไปทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ต่อเติมเข้ามาเพื่อใช้ประโยชน์ในโรงพยาบาลสนาม จากนั้นก็จะทำความสะอาดและประกาศขายตามวัตถุประสงค์ทางด้านธุรกิจส่วนตัวต่อไป
แต่สำหรับโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 8 นั้น ตนเองขอให้ความเชื่อมั่นว่าจะยังคงไว้จนกว่าโควิด-19 จะหมดไปจากประเทศไทย ไม่ว่าในปัจจุบันหรืออนาคต จังหวัดสมุทรสาครยังคงใช้ประโยชน์จากพื้นที่นี้ได้เสมอ หรือแม้แต่ในวันข้างหน้าหากจังหวัดสมุทรสาครไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว แต่มีจังหวัดอื่นที่เกิดการระบาดของโรคนี้ ทางโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง ก็พร้อมให้ใช้พื้นที่เพื่อผู้ที่อยู่ในประเทศไทยทุกคน
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ