คำต่อคำ “ผู้ว่าฯวีระศักดิ์” รักษาตัว รพ.ศิริราช 82 วัน ขอพักฟื้น 1 เดือน กลับสมุทรสาคร

รพ.ศิริราช แถลงข่าว “วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี” ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ออกจากโรงพยาบาล หลังจากรักษาตัวถึง 82 วันจนอาการดีขึ้น แพทย์เผยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มภูมิต้านทาน พร้อมกายภาพบำบัดอีก 1 เดือน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ก.ย. 64 ที่หอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นประธานแถลงข่าวเรื่อง “ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ออกจาก รพ.ศิริราช” ร่วมกับ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ ร่วมแถลงข่าว โดยมีนางชุติพร วิจิตร์แสงศรี ภรรยาผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อม น.ส.วีราพร วิจิตร์แสงศรี บุตรสาวฯ เข้าร่วมการแถลงข่าวด้วย โดยนายวีระศักดิ์ เข้ารับการรักษาใน รพ.ศิริราช ด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 63 ขณะนี้อาการดีขึ้น จนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ คณะแพทย์จึงอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

นายวีระศักดิ์ เปิดใจว่า ต้องขอบคุณในกำลังใจที่ทุกคนได้มอบให้ บางท่านอาจเห็นว่าตนเดินเข้ามาที่ห้องประชุมยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก มีบางครั้งบุตรสาวหรือแพทย์คอยช่วยดูแลบ้าง แต่นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกอย่างหนึ่งว่า เมื่อวันก่อนแย่กว่านี้ ตอนที่ตนรู้สึกตัวด้วยตนเองว่า นี่คือขาของเราหรือ นี่คือแขนของเราหรือ มันไม่มีกล้ามเนื้ออะไรเลย ลงมานั่งอยู่ข้างเตียงยังมีความรู้สึกว่าเหนื่อยมาก ดังนั้นวันนี้ที่เดินมาแถลงข่าวได้ก็ถือว่าดีกว่าก่อนหน้านี้อย่างมาก อยากจะบอกว่าตนอยู่ที่ รพ.ศิริราช 82 วัน และเป็นช่วงเวลาที่ตนไม่รู้สึกตัวเลย 42 วัน ตนยังแปลกใจตัวเองเลยว่าเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูงกับทางศิริราชพยาบาล ที่ให้ความอนุเคราะห์กับทางสมุทรสาคร เพราะทาง รศ.นพ.นิธิพัฒน์ ให้ความร่วมมือตอนที่ค้นพบโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เลยถือโอกาสรับตนมาดูแลที่ รพ.ศิริราช พอดี ซึ่งไม่ได้ให้ความอนุเคราะห์ตนเพียงคนเดียว แต่รวมถึงคนไข้ที่มีอาการค่อนข้างแย่ แม้ล่าสุดเคสที่ตลาดบางแค ตอนนี้ทางศิริราชพยาบาลก็ยกระดับเพื่อเตรียมความพร้อมรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าศิริราชพยาบาลอยู่เคียงคู่กับประชาชนมาโดยตลอด ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ว่าฯ หรือใครถึงจะรับมาดูแล ซึ่งก่อนหน้าตนก็มีรับผู้ป่วยจากสมุทรสาครเข้ามารักษาที่ รพ.ศิริราช ในรายที่เห็นสมควรอยู่แล้ว ซึ่งต้องขอบคุณในกำลังใจของทุกฝ่ายเป็นอย่างสูง และถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานแจกันดอกไม้เยี่ยมไข้อยู่เป็นประจำ

ตนคิดว่าส่วนหนึ่งตอนที่ตัวเองเจอว่าเป็นโควิด-19 มันรุนแรงกว่าที่เคยคิดมาก่อน ตนเคยปรารภเล่น ๆ กับเพื่อนร่วมงานว่า เราทำงานมาก ไปที่ต่าง ๆ หลังจากที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่ตลาดกลางกุ้งฯ ถ้าเราไปตรวจคงเจอแน่ ๆ แต่คิดว่าคงไม่เป็นไร อีกอย่างวันถัดไปจะเปิดโรงพยาบาลสนาม ซึ่งไปหลายแห่งแต่ไม่สามารถสร้างได้ ก็เลยตัดสินใจตั้งที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เพื่อความไม่ประมาท จึงขอตรวจโควิด-19 กับทางโรงพยาบาลสมุทรสาครก่อน เพราะถ้าเจอภายหลังจะกลายเป็นว่าโรงพยาบาลสนามส่งผลให้เกิดโรค แล้วก็เจอจริง ๆ แต่ในความรู้สึกที่ตนเจอก็คิดว่าประมาณ 10 วันน่าจะหาย แต่บังเอิญมันรุนแรงกว่าที่ตนประเมินไว้ ดังนั้นอยากบอกกับทุกคนว่า ความรุนแรงของโควิด-19 มันไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไม่สามารถรู้สึกตัวได้ 42 วัน จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ วันนี้ต้องขอบคุณทางคณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล ขอบคุณกำลังใจจากคนไทยทั้งประเทศ ขอบคุณคนสมุทรสาคร ศรีสะเกษ พิจิตร สุพรรณบุรี ที่ตนเคยรับราชการมา ล้วนแต่เป็นกำลังใจให้กับตนเอง ขอบคุณแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางสาธารณสุข ที่ให้ความช่วยเหลือดูแลตนเป็นอย่างดี ทำให้ตนกลับมาเดินได้ อาจจะยังไม่ปกติและต้องใช้เวลา แต่ดีกว่าที่ตนคิดไว้เยอะ ตอนนี้รู้สึกมีกล้ามเนื้อที่แขนและขาแล้ว สามารถพูดได้ สื่อสารได้แล้ว

ก็คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่สำคัญยิ่ง จะนำเอาบทเรียนเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นนโยบายของตนเอง สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นอยู่ในศิริราชพยาบาล คือ ททท. หรือ ทำทันที เพราะเราไม่รู้ว่าตัวเองจะเสียชีวิตหรือเจ็บป่วยวันไหน เพราะการที่ตนผ่านวิกฤตมาได้ 42 วัน เหมือนเป็นเส้นแบ่งระหว่างความมีชีวิตอยู่กับความตายที่ห่างกันนิดเดียว โชคดีที่ตนมาอยู่ที่ศิริราชพยาบาล ได้ยิน นพ.ประสิทธิ์บอกกับทางทีมแพทย์-พยาบาลว่า เคสของตนเป็นการเดิมพันว่าศิริราชจะสามารถสู้กับโควิด-19 ได้หรือเปล่า ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ของการศึกษาเรื่องโควิด-19 ต่อไปในอนาคต

สำหรับตนเองนั้น ต่อไปคิดว่าจะสามารถไปทำงานที่สมุทรสาครเพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาโควิด-19 เพราะตนทราบดีว่าที่สมุทรสาครจะเปลี่ยนจากพื้นที่สีแดงเป็นสีส้ม แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ศบค. แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือคนสมุทรสาครเดือดร้อนมากทุกสิ่งอย่าง ซึ่งจะต้องกลับไปเยียวยา วันนี้ตนกำลังใจเต็มร้อย แต่กำลังกายอาจจะยังไม่เต็มร้อย ก็คิดว่าจะเต็มร้อยในเร็ววัน วันนี้ก็ฝากความหวังไว้กับทุกคน อย่าลืมว่าทางสมุทรสาครอาหารทะเลอร่อย อย่าลืมแวะไปทาน

ทั้งนี้ หลังจากออกจาก รพ.ศิริราช เบื้องต้น รศ.นพ.นิธิพัฒน์ จะไปดูสถานที่พักฟื้นซึ่งเป็นบ้านของตนที่ จ.อ่างทอง ก่อน ก็จะไปที่ จ.สมุทรสาคร อยู่บ้าง และก็สั่งการผ่านรองผู้ว่าฯ จะ Work From Home เป็นหลัก คิดว่าไม่เกิน 1 เดือน ก็จะสามารถลงพื้นที่ได้มากขึ้น แต่ก่อนหน้านั้นก็จะลงพื้นที่บ้างเท่าที่สภาพร่างกายจะอำนวย ต้องบอกตามตรงว่าตอนนี้ดีขึ้นมากจนตัวเองต้องแปลกใจ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือทีมแพทย์-พยาบาลให้กำลังใจที่ดี ให้ความรู้สึกที่เข้มแข็ง คนสมุทรสาครและคนไทยทั้งประเทศส่งกำลังใจมาค่อนข้างมากจนตนแปลกใจ เพราะทุกคนอยากเห็นตนนั้นดีขึ้น ตนก็ควรจะต้องทำให้ร่างกายพัฒนาไปในทางที่ดี

ทางด้าน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เปิดเผยว่า จากการตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19 ของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ก่อนออกจาก รพ.ศิริราช ผลปรากฏว่าภูมิคุ้มกันไม่ขึ้น ซึ่งตนไม่อยากให้กลับไปโดยที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน จึงขออนุญาตฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของซิโนแวค เนื่องจากมีอายุ 59 ปี 3 เดือน แล้วติดตามผลว่าภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นจนขึ้นสูงหรือไม่ ซึ่งการกลับไปที่ จ.สมุทรสาคร ที่มีการระบาดอยู่ ทางผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ก็ต้องป้องกันตนเอง สวมแมสก์ และรักษาระยะห่าง และขอให้ชาวสมุทรสาครหลีกเลี่ยงการที่จะไปพบท่านผู้ว่าฯ ใกล้ ๆ เพราะบางคนอาจจะติดเชื้ออยู่หรือไม่ก็ไม่รู้

นอกจากนี้ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ยังเป็นคนไข้ของทางศิริราชอยู่ ซึ่งคณะกรรมการแพทย์ที่ดูแลรักษาได้ประสานไปยังโรงพยาบาลอ่างทอง สรุปว่าขณะที่พักฟื้น ทำกายภาพบำบัดที่ จ.อ่างทอง ยังขอให้งดเยี่ยมเหมือนเดิม จนกว่าคณะกรรมการแพทย์ฯ จะอนุญาต และคนที่ทำกายภาพบำบัดก็มีการขอเฉพาะคน และไม่มีเชื้อโควิด-19

หลังจากการแถลงข่าว คณะแพทย์ รพ.ศิริราช ได้เดินทางไปส่งนายวีระศักดิ์ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีข้าราชการและประชาชนรอต้อนรับและให้กำลังใจผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ขอความร่วมมืองดใกล้ชิดกับผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เพราะยังต้องระมัดระวังสุขภาพ รวมทั้งไม่ให้เกิดการแออัดมากเกินไป

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *