สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร เผยทางจังหวัดฯ ประกาศเฝ้าระวัง “โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร” แล้ว ผู้ใดเคลื่อนย้ายสุกรหรือหมูป่าในเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท แนะให้ขออนุญาตทางปศุสัตว์จังหวัดฯ ก่อนทำการเคลื่อนย้ายหรือค้าสุกร
วันนี้ (29 เม.ย.) น.สพ.สุกิจ ประทุมชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ด้วยในปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม เกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF (African Swine Fever) แต่ประเทศไทยยังคงสถานะปลอดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็มีความเสี่ยงจากการลักลอบเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรที่มีเชื้อโรค ASF จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย ทำให้เกิดโรคในสุกรของประเทศไทยได้ ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก แม้จะเป็นโรคติดต่อจากสัตว์ไปสู่สัตว์ แต่ไม่ติดต่อจากสัตว์ไปสู่คน แต่เนื่องจากเป็นโรคระบาดที่รุนแรงมาก ถ้าเกิดการระบาดขึ้นในฟาร์มใด สุกรที่ติดเชื้อมีอัตราการป่วยและการตายสูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งทางจังหวัดสมุทรสาคร มีการประกาศเฝ้าระวังโรคเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยให้ท้องที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอของ จ.สมุทรสาคร เป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชนิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ในสัตว์หรือซากสัตว์ชนิดสุกรหรือหมูป่า รวมทั้งน้ำเชื้อผสมพันธุ์และเอ็มบริโอ รวมถึงห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ข้างต้น เข้า ออก ผ่าน หรือภายในเขตเฝ้าระวังโรคระบาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีอำนาจรับผิดชอบประจำเขตนั้นทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร จึงขอแจ้งให้ผู้ประกอบกิจการที่ต้องเคลื่อนย้ายสุกรหรือซากสุกร ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ต้องขออนุญาตจากทางปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อออกหนังสืออนุญาต ทั้งใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ภายใน เข้าใน หรือออกนอกเขตโรคระบาด เขตสงสัยว่ามีโรคระบาด หรือเขตโรคระบาดชั่วคราว (ร.3) และใบอนุญาตให้ทำการค้าสัตว์หรือซากสัตว์ (ร.10) ให้สามารถเคลื่อนย้ายสุกรได้ตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ดำเนินการตามก็จะต้องมีความผิดทางกฎหมาย
สำหรับจังหวัดสมุทรสาคร มีปริมาณการนำเข้าสุกรประมาณเดือนละ 5,000 ตัน แต่จากยอดการนำออกมีเพียงแค่ 700 กว่าตันเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นยอดผู้บริโภคประมาณ 4,300 ตัน จึงไม่น่าเป็นไปได้ว่าประชาชนจะบริโภคเนื้อสุกร หรืออวัยวะส่วนอื่นๆ ของสุกรเดือนละกว่า 4,000 ตัน ดังนั้นจึงต้องหาว่าซากสัตว์ในจำนวนนี้หายไปไหนบ้าง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อในสัตว์ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่นำเข้า หรือส่งออกสุกร มายื่นขออนุญาตการเคลื่อนย้ายสุกร เพราะนอกจากให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังเพื่อเป็นการป้องกันควบคุมการระบาดของโรคติดต่อในสัตว์อีกด้วย
หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่ นายสัตวแพทย์สุกิจ ประทุมชัย หมายเลขโทรศัพท์ 063-6156353
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง