ชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร หารือหลัง ศบค. ออกคำสั่งห้ามนั่งทานในร้าน เตรียมยื่นข้อเสนอ 6 ข้อ ทั้งลดเวลาเหลือ 7-10 วัน ชดเชยรายได้ จัดสรรวัคซีน ฯลฯ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. 64 ที่ร้านท่าเรือ 1964 ชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร โดย นายเกษมศักดิ์ ยุติ ประธานชมรมฯ และนายกิตติพงษ์ เจริญคงธรรม เลขาธิการชมรมฯ ร่วมหารือถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ออกคำสั่งให้ 10 จังหวัดรวมถึงสมุทรสาคร เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และมีมาตรการเรื่องการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านอาหารทั้งหมด ให้เปิดดำเนินการเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น (ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน) โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. นี้เป็นวันแรก
ซึ่งทางสมาชิกชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเป็นอย่างมาก และ ได้ร่วมกันสะท้อนปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคำสั่ง ศบค. ซึ่งออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ธุรกิจร้านอาหารใน จ.สมุทรสาคร ที่กำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกที่ผ่านมา ต้องกลับมาสะดุดอีกครั้ง ต้องแบกรับต้นทุนทั้งค่าเช่าร้าน ค่าสต็อกวัตถุดิบที่เตรียมไว้แล้ว ค่าจ้างพนักงานภายในร้าน ค่าน้ำ-ไฟฟ้า รวมถึงการจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ ที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับแอปพลิเคชันสั่งอาหารต่าง ๆ เป็นจำนวนที่สูง และไม่ตอบสนองต่อร้านอาหารเท่าที่ควร เพราะขายได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเปิดให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน
นายกิตติพงษ์ เจริญคงธรรม เลขาธิการชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ร้านอาหารใน จ.สมุทรสาคร ถือว่าได้รับผลกระทบเป็นรอบที่ 4 แล้ว เมื่อเกิดคลัสเตอร์ใหม่ ๆ ขึ้น ก็จะได้รับผลกระทบทุกครั้ง แล้วมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยเยียวยาร้านอาหารนั้นแทบไม่ได้รับการตอบสนองเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเยียวยา เรื่องโควตาวัคซีน เรื่องค่า GP ที่เกี่ยวกับการจัดส่งเดลิเวอรี่ เราได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะว่ามีเรื่องของการจ้างงาน ค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ-ไฟฟ้า ค่าภาษี เงินที่ใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัว ยิ่งร้านที่อยู่แบบระบบครัวเรือนยิ่งได้รับผลกระทบเยอะมาก
จึงอยากวิงวอนให้ภาครัฐเห็นใจผู้ประกอบการร้านอาหารบ้าง ไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ ทุกคนได้รับผลกระทบหมด ซึ่งรอบที่ผ่านมาเหมือนจะเริ่มเดินได้สักพักแต่กลับต้องมาล้มอีก ทุกครั้งที่เราจะเริ่มขยับได้ก็โดนผลกระทบซ้ำทุกรอบ สำหรับข้อเรียกร้องของทางชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสาคร ที่จะฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีทั้งหมด 6 ข้อ ดังนี้
1. ขอให้ระยะเวลาเรื่องของมาตรการห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน จาก 30 วัน ลดลงเหลือเป็น 7 วัน หรือ 10 วัน เพราะยังมีร้านอาหารประเภทความเสี่ยงไม่มาก เช่น ร้านอาหารแบบสตรีทฟู้ด ร้านแบบเปิดโล่ง (Open Air) ที่ยังสามารถสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับลูกค้าได้
2. ขอให้ชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าจ้างพนักงาน ค่าสต็อกวัตถุดิบต่าง ๆ รวมถึงออกมาตรการยกเว้นภาษี เพราะผู้ประกอบการยังคงต้องแบกรับต้นทุนต่าง ๆ ในระหว่างการปฏิบัติตามมาตรการของทางรัฐบาล
3. ขอให้ทางภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่า GP (Gross Profit) หรือค่าธรรมเนียมของแอปพลิเคชันสั่งอาหารต่าง ๆ ซึ่งร้านอาหารใน จ.สมุทรสาคร ใช้ระบบเหล่านี้ในการจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ โดยบางร้านถูกเรียกเก็บค่า GP ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้กำไรส่วนที่เหลือไม่สามารถพยุงธุรกิจได้ โดยขอให้ช่วยลดค่า GP จะเป็นเหลือแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ หรือ 0 เปอร์เซ็นต์เลยก็ยิ่งดี
4. ในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ ให้ทางจังหวัดสมุทรสาคร ช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารในจังหวัดฯ ได้จัดทำอาหารกล่อง นำไปแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย ผู้ยากไร้ และผู้ตกงาน เพื่อประคับประคองให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ เกิดการจ้างงาน ระบายสต็อกสินค้า โดยให้ทางชมรมฯ แบ่งงานกระจายไปยังร้านอาหารต่าง ๆ ในจังหวัดฯ ใช้กองทุนที่ทางจังหวัดฯ ตั้งขึ้นมาเพื่อรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา หรือเงินอุดหนุนที่ภาครัฐได้รับมาอยู่แล้ว
5. มาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐกำหนดออกมา ซึ่งทางผู้ประกอบการร้านอาหารหลายรายไม่เข้าใจในหลาย ๆ เรื่อง จึงอยากให้ทางภาครัฐ โดยทางจังหวัดสมุทรสาคร แจ้งข้อกำหนดต่าง ๆ ออกมาเป็นเรื่อง ๆ เพื่อที่ผู้ประกอบการร้านอาหารจะได้ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง ซึ่งที่ผ่านมาก็ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาโดยตลอด
6. ขอให้จัดสรรโควตาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ฉีดให้กับบุคลากรทางร้านอาหาร ทั้งคนไทยและต่างด้าว เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับธุรกิจร้านอาหาร เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการนี้แล้ว จะทำให้มีกำลังซื้อกลับมาจากคนในพื้นที่และคนต่างจังหวัด เมื่อมาทานที่ร้านอาหารแล้วปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีผู้ติดเชื้อมาให้บริการ
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง