จ่อตั้งสถานที่พักคอยในชุมชนทุกตำบล – เตรียม “รพ.สนามสีเหลือง” แห่งแรกที่ ทต.นาดี

ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เผยสั่งให้ทุกตำบล จัดตั้งสถานที่พักคอยในชุมชนสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 “Community Isolation” อย่างน้อย 100 เตียง เล็งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสีเหลือง สำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้ออกซิเจน แห่งแรกที่ ทต.นาดี

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 64 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวในรายการ “ไม่แพ้แน่นอน เราจะผ่านไปด้วยกัน” ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ว่า กรณีที่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงไม่ได้รับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลเอกชน โดยเฉพาะผู้มีสิทธิตามประกันสังคม โดยอ้างว่าเตียงเต็มนั้น เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้เรียนเชิญผู้แทนโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนมาพูดคุยกันแล้ว โดยลงมติให้ทุกโรงพยาบาลต้องตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกรายตามเกณฑ์ของสาธารณสุข ถ้ามีสิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลใดก็ไปตรวจที่นั่นได้ แต่ต้องเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จึงจะได้เข้ารับการตรวจ

ส่วนกรณีที่ทางจังหวัดฯ จะให้ทุกตำบลจัดตั้งสถานที่พักคอยในชุมชนสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือ Community Isolation (CI) นอกจากโรงพยาบาลสนาม 7 แห่งนั้น ก็เพื่อให้สอดคล้องกับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน ถ้าเกิดขึ้นอย่างไว้ที่สุด ก็จะสามารถทำให้ผู้ติดเชื้อมีสถานที่พักคอย แยกผู้ติดเชื้อออกมาจากคนในบ้านได้ โดยต้องขอความร่วมมือจากสถานศึกษาในตำบลนั้น ๆ เพราะ Community Isolation จะต้องมีทุกตำบล แห่งละไม่น้อยกว่า 100 เตียง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจากจำนวนตำบลที่มีอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ถ้าสถานศึกษาที่เบื้องต้นตอบรับมาแล้ว ตนได้ให้เวลา 1 สัปดาห์ ในการจัดตั้งสถานที่ดังกล่าวทยอยให้ครบทุกตำบล นอกจากนี้ ได้มองไปถึงระบบการแยกกักแบบกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation (HI) แต่การดำเนินการจะต้องดูเรื่องสถานที่บ้านซึ่งมีความพร้อมจริง

สำหรับเรื่องการจัดตั้ง “โรงพยาบาลสนามสีเหลือง” ซึ่งจะนำผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อย หรือกลุ่มสีเหลือง ประเภทที่ต้องให้ออกซิเจนอย่างเดียวประมาณร้อยละ 70 ของทั้งหมด นำมาอยู่ในโรงพยาบาลสนามเพื่อแก้ปัญหาเตียงเต็มโรงพยาบาลหลัก โดยจะทำโรงพยาบาลสนามให้สามารถมีระบบการให้ออกซิเจนได้เพิ่มมากขึ้น ตอนแรกที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ มีมติให้จัดตั้งที่ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 14 สหกรณ์การเกษตรบ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ขนาด 400 เตียงเป็นแห่งแรก เนื่องจากยังไม่มีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษา

แต่หลังจากการประชุมฯ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างผู้อำนวยการโรงพยาบาล นายอำเภอ และสาธารณสุขอำเภอ มีความเห็นว่าเนื่องจากมีผู้ป่วยโควิด-19 ของ อ.บ้านแพ้ว รอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้อยู่แล้ว เกรงว่าจะไม่สามารถระบายคนเหล่านี้เข้ามาได้ทัน จึงมีความคิดตรงกันว่าจะเปลี่ยนแผนไปจัดตั้งที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา (32 ไร่) เทศบาลตำบลนาดี หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เป็นแห่งแรกแทน ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 350 เตียง หลังจากนั้นจะขยับขยายไปที่ ต.ท่าจีน, ต.อ้อมน้อย และ อ.บ้านแพ้ว ต่อไปตามลำดับ

ทั้งนี้ จะทำให้เตียงในโรงพยาบาลหลักว่างเพิ่มมากขึ้น สามารถรองรับผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจได้ แต่ปัญหาสำคัญ คือต้องรณรงค์จัดหาเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ (Oxygen High Flow) หรือเครื่องช่วยหายใจเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งต้องหาออกซิเจนเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสีเหลืองเพิ่มเติมให้ได้ ซึ่งตามโปรแกรมปกติจะใช้เวลาจัดตั้งประมาณ 1 เดือน แต่ตนได้คุยกับทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ แล้ว ให้ร่นระยะเวลาเป็นไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพราะสถานการณ์ยังมีผู้ป่วยโควิด-19 ต้องได้รับการรักษาเป็นจำนวนมาก

ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ต้องเลื่อนออกไป ทำให้หลายคนกังวลว่าจะไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้น นายวีระศักดิ์ ชี้แจงว่า ประชาชนยังได้ฉีดเหมือนเดิม ที่ต้องเลื่อนออกไปเพราะต้องเน้นฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรคก่อนเป็นลำดับแรก เพราะกลุ่มเหล่านี้คือผู้ป่วยหลักที่เข้าโรงพยาบาล โดยหวังว่าวัคซีนจะเป็นตัวช่วยให้หยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูงมีอาการหนักหรือไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล อีกทั้งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่เป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ดังนั้นเราต้องช่วยกันยับยั้งไม่ให้โรคโควิด-19 ทำอันตรายถึงชีวิตให้กลุ่มคนเหล่านี้

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *