เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับ รพ.สมุทรสาคร และกู้ชีพเทศบาลฯ บางหญ้าแพรก เริ่มฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังแบบครบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับการจัดสรรวัคซีน 1,360 โดส พร้อมมาตรการคุมเข้มป้องกันโควิด 19 ในเรือนจำ ทั้งผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำ ขณะที่สถานการณ์โควิด 19 สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 121 ราย
วันนี้ (6 ต.ค.) เวลา 09.00 น. นายชำนาญ เล็กสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม ในการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด 19 ภายหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในเรือนจำหลายแห่งทั่วประเทศไทยนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ ได้รับมอบหมายให้ร่วมกับกรมควบคุมโรคติดต่อ ดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด 19 มาให้แก่เรือนจำทั่วประเทศ เพื่อฉีดให้กับผู้ต้องขังภายในเรือนจำ ซึ่ง จ.สมุทรสาคร ได้วัคซีนมาประมาณ 1,360 โดส จัดฉีดให้แก่ผู้ต้องขังแบบครบ 100 เปอร์เซ็นต์
ทางเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรสาคร และหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก จึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ต้องขังภายในวันละ 200 คน โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนหลักการฉีดนั้นก็จะเป็นแบบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดคือ ผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อและยังไม่เคยได้รับวัคซีนเลย จะฉีดวัคซีนแบบไขว้ เข็มแรกเป็นซิโนแวค เข็มที่สองเป็น แอสตร้าเซนเนก้า มีอยู่ประมาณ 90 คน, ผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อแล้ว ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นชนิดแอสตร้าเซนเนก้า มีอยู่ประมาณ 1,260 คน และ ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม อีกราว 400 คน ซึ่งผู้ต้องขังที่จะได้รับวัคซีนนั้น ทุกคนต่างรู้สึกดีใจที่ได้รับการดูแลจากทางกรมราชทัณฑ์เทียบเท่ากับบุคคลภายนอก เพราะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ทุกชีวิต
ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร บอกอีกว่า ปัจจุบันภายในเรือนจำฯ ถือได้ว่าปลอดจากเชื้อโควิด 19 แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้คุมเรือนจำทุกคนได้มีการฉีดวัคซีนครบหมดแล้ว แต่ทุกครั้งก่อนที่ใครจะเข้าเรือนจำนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้คุมหรือผู้ขับรถส่งอาหาร และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ก็จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อก่อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการเข้มในการตรวจหาเชื้อด้วยรูปแบบ RT-PCR เป็นประจำทุกวันพุธอีกด้วย ส่วนผู้ต้องขังในเรือนจำจะใช้วิธีการสุ่มตรวจด้วย ATK อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการหลุดรอดเข้าไปของเชื้อโควิด 19
ขณะที่ผู้ต้องขังแรกรับรายใหม่นั้น จะต้องเข้าสู่เรือนพักชั่วคราวเป็นเวลา 21 วัน ที่เรือนจำชั่วคราวบางหญ้าแพรก เพื่อตรวจหาเชื้อและรอดูอาการ หากพบเชื้อก็จะต้องสู่ห้องกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อเมื่อครบ 21 วันแล้ว ก็จะนำเข้าสู่ภายในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร แต่ยังคงต้องอยู่ในห้องแยกอีก 21 วัน เพื่อเป็นการสแกนโรคอย่างถี่ถ้วน ว่าจะไม่เกิดขึ้นภายในเรือนจำสมุทรสาครอย่างแน่นอน ด้านผู้ต้องขังที่พ้นโทษแล้ว ทางเรือนจำก็จัดที่พักรับรองให้เข้าพักอีกเป็นเวลา 14 วัน ก่อนที่จะเดินทางกลับสู่บ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนในครอบครัวว่าผู้พ้นโทษเหล่านี้ไม่ได้นำเชื้อโควิด 19 เข้าไปสู่คนในชุมชน
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จ.สมุทรสาคร จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 121 ราย จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 23 ราย พบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 98 ราย จำแนกเป็นคนในจังหวัด 64 ราย และคนนอกจังหวัด 34 ราย ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 107,662 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตรายวัน 1 ราย ยอดสะสมอยู่ที่ 1,113 ราย
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ