คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานในพื้นที่เทศบาลตำบลบางปลา จ.สมุทรสาคร หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียและอากาศเสีย ก่อนร่วมหารือกับทางผู้ว่าฯ และผู้แทนโรงงาน 5 แห่งที่พบปัญหา แนะวิธีแก้ไข ให้โรงงานจัดทำโครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมฯ 7 ข้อ และโครงการตาสับปะรด พร้อมติดตามผลอีกครั้งปลายเดือน ม.ค. ปีหน้า
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 64 คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย นาย พีระเพชร ศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง, นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ, นายประทวน สุทธิอำนวยเดช รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่, นายสมัคร ป้องวงษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีโรงงานอุตสาหกรรมใน จ.สมุทรสาคร ลักลอบปล่อยน้ำเสียและมลพิษทางอากาศและเสียง
โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3, นายลือชา โพธิ์อบ นายกเทศมนตรีตำบลบางปลา, นายธงชัย เมืองสนธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร, นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ทสจ.สมุทรสาคร, นายปิยะ ลืออุติกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ ผู้แทนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและลงพื้นที่
หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองสี่วาพาสวัสดิ์ และคลองแนวลิขิต รวมถึงปัญหาส่งกลิ่นเหม็นและฝุ่นละอองจากโรงงานอุตสาหกรรม 5 แห่ง ในเขตเทศบาลตำบลบางปลา ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียง ทางคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมฯ จึงได้ลงพื้นที่โรงงานเป้าหมาย 2 แห่ง แห่งแรกที่โรงงานผลิตกระดาษและบรรจุภัณฑ์แห่งหนึ่ง ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนปล่อยน้ำเสียปะปนลงสู่แหล่งน้ำ จากนั้นได้ไปยังโรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนส่งกลิ่นเหม็นจากกระบวนการผลิต และปิดท้ายด้วยการประชุมร่วมกับ นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงผู้แทนโรงงานทั้ง 5 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร
นายประทวน สุทธิอำนวยเดช รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการมาเยี่ยมและตรวจติดตามในเรื่องปัญหาร้องเรียนของทางจังหวัดสมุทรสาคร โดยนายลือชา โพธิ์อบ นายกเทศมนตรีตำบลบางปลา และ ส.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมฯ ว่ามีโรงงานในพื้นที่บริเวณคลองสี่วาพาสวัสดิ์ และแม่น้ำท่าจีน ที่ก่อให้เกิดน้ำเสีย เรื่องกลิ่นและฝุ่นละออง เรื่องเสียง ทั้งหมด 5 แห่ง สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นถ้าจะเยียวยา ต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ สนง.ทสจ.สมุทรสาคร รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ท้องถิ่น-ท้องที่ ทั้งหมดต้องให้ความร่วมมือกันจริง ๆ ถึงจะสามารถดำเนินการได้
ถ้าจะให้หน่วยงานเร่งรัดตรวจสอบตัวอย่างคุณภาพน้ำ วัดค่าฝุ่นละอองและค่าเสียง ก็เป็นเหมือนกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ทำในอดีต อย่างไรก็รักษาไม่ได้ ทางคณะกรรมาธิการฯ เลยเสนอแนะให้ทางจังหวัดสมุทรสาคร จัดทำ “โครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมสถานประกอบการอุตสาหกรรม” ซึ่งมีหลักอยู่ 7 ข้อ ได้แก่ 1. ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร 2. ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา 3. มีความโปร่งใส 4. มีความรับผิดชอบต่อสังคม 5. นิติธรรม 6. ยุติธรรม และ 7. ความยั่งยืน ทำให้ความที่ไม่เข้าใจ ระแวงสงสัยในหน่วยงานภาครัฐก็จะหายไป ประชาชนจะรู้ทุกกระบวนการว่าผู้ประกอบการ หน่วยงานของรัฐทำอะไรบ้าง ก็จะเกิดไตรภาคี 3 ส่วน คือภาคราชการ ผู้ประกอบการ และประชาชน ซึ่งโครงการธรรมาภิบาลได้ทำกันมาแล้วหลายจังหวัด และประสบความสำเร็จ
แล้วถ้าเกิดโรงงานเยอะ ๆ และทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดเพราะบุคลากรมีน้อย ติดปัญหากลางคืนหรือหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องใช้ “โครงการตาสับปะรด” ด้านสิ่งแวดล้อมภาคอุตสาหกรรม ในการให้ประชาชนร่วมกันเฝ้าระวัง ซึ่งโครงการนี้จะชี้ให้เห็นว่าโรงงานไหนดีหรือไม่ดีก็ว่ากันตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นสังคมก็จะเกิดความยุติธรรม ไม่ลำเอียง ไม่เหลื่อมล้ำ
ซึ่งวันนี้ที่คณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่เข้ามาดูและหารือกับผู้ประกอบการโรงงานทั้ง 5 แห่ง ก็พบว่ามีทั้งทำผิดและถูก แต่เราไม่โทษเรื่องในอดีต อนาคตก็ต้องรบกวนทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และอุตสาหกรรมจังหวัดฯ จัดโครงการธรรมาภิบาลเอามาจับทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราให้เวลา 2 เดือน ประมาณปลายเดือน ม.ค. ปีหน้า ทางคณะกรรมาธิการฯ จะเข้ามาดูผลสำเร็จในพื้นที่อีกครั้ง แล้วนำต้นแบบของโครงการฯ ไปปรับใช้ทั้งจังหวัด สมุทรสาครก็จะมีสิ่งที่ดี
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง