
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำแถลงจับกุม 4 ผู้ต้องหาลักลอบขนกัญชาแห้งอัดแท่ง 625.3 กก. มูลค่าเกือบ 13 ล้านบาท บรรทุกกระบะตู้ทึบติดป้ายทะเบียนปลอม ส่งมอบจากย่านพุทธมณฑลสาย 4 มุ่งลงใต้ ก่อนถูกรวบที่ ถ.พระราม 2 หน้าวัดเกตุมฯ จ.สมุทรสาคร แล้วขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
วันนี้ (24 ม.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ได้ร่วมกันลักลอบขนกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 625.3 กก. ประกอบด้วย นายอุดร เพชรรักษา อายุ 42 ปี และนายชาญชัย ไชยบุตร อายุ 39 ปี ถูกจับกุมได้ที่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายประกอบ เพชรรักษา อายุ 66 ปี และ น.ส.กรษิพรรณ สุขปัน อายุ 34 ปี ถูกจับกุมได้ที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

พร้อมของกลางหลายรายการ ได้แก่ กัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 14 กระสอบ 535 แท่ง น้ำหนักรวมหีบห่อ 625.3 กก., รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว จำนวน 1 คัน, แผ่นป้ายทะเบียนรถ (ปลอม) 3 ฒฒ 6487 กรุงเทพฯ จำนวน 2 แผ่น, แผ่นป้ายภาษี แสดงหมายเลขทะเบียน 1 ฒพ 3819 กรุงเทพฯ จำนวน 1 แผ่น, แม่กุญแจล็อกตู้ทึบ พร้อมลูกกุญแจ 1 ชุด, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บต 1748 ชุมพร จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา จำนวน 3 เครื่อง
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ป้องกันและปราบปราม สืบสวนจับกุมกวาดล้างผู้ที่ลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในทุกมิติอย่างต่อเนื่องนั้น ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ดำเนินการติดตามกวาดล้างผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นและจริงจัง ซึ่งในคดีจับกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 625.3 กก. คิดเป็นมูลค่าเกือบ 13 ล้านบาทครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจทางหลวง และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

สำหรับพฤติการณ์การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนนั้น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 65 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า จะมีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติดกันที่บริเวณเส้นทางพุทธมณฑลสาย 4 โดยใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์เทา มาส่งกลุ่มบุคคลเพื่อรับยาเสพติดในรถยนต์กระบะตู้ทึบเชฟโรเลต สีขาว นำกลับไปยังพื้นที่ภาคใต้ จึงได้ทำการเฝ้าติดตามกลุ่มต้องสงสัย จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ได้พบรถยนต์กระบะตู้ทึบขับผ่านแยกสัญญาณไฟแดงบางปลา ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกันกับที่ได้ทำการสืบสวนมา อีกทั้งจากการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนดังกล่าว พบว่าไม่มีข้อมูลทางทะเบียน จึงได้สะกดรอยติดตามเรื่อยมา และได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพื่อสกัดรถยนต์คันดังกล่าว

เมื่อรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่มาถึงบริเวณ ถ.พระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ หน้าวัดเกตุมดีศรีวราราม ต.บางโทรัด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดรถ พร้อมขอทำการตรวจค้นรถยนต์ ผลปรากฏว่าพบกัญชาอัดแท่งจำนวนมาก จึงได้นำตัวนายอุดร เพชรรักษา คนขับ กับ นายชาญชัย ไชยบุตร คนประจำรถ มาสอบปากคำจนทราบว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนยาเสพติดเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งได้ไปรับยาเสพติดมาจากย่านพุทธมณฑลสาย 4 กำลังจะนำไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี น.ส.กรษิพรรณ สุขปัน เป็นผู้ติดต่อ และนายประกอบ เพชรรักษา เป็นคนขับรถยนต์กระบะโตโยต้า พาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มารับยาเสพติด

หลังจากได้ยาเสพติดแล้วทั้ง น.ส.กรษิพรรณ กับ นายประกอบ ได้ขับรถกระบะโตโยต้า กลับไป จ.ชุมพร ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึง ได้ประสานแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จนกระทั่งก็สามารถจับกุมตัว น.ส.กรษิพรรณ และนายประกอบ พร้อมรถยนต์ ได้ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางมาจัดทำบันทึก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ปลอมและใช้เอกสารปลอม”

ผบช.ภ.7 กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับเครือข่ายที่ลักลอบขนยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการขยายผลเพื่อผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม โดยเชื่อว่าจะมีมากกว่า 4 คนนี้อย่างแน่นอน และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนด้วยว่า นอกจากจะมีการลักลอบขนกัญชาแห้งอัดแท่งมูลค่าเกือบ 13 ล้านบาทล็อตนี้แล้ว ยังมีการลักลอบขนยาเสพติดประเภทอื่นด้วยหรือไม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น ทั้งนี้ก็อยากจะแจ้งเตือนไปยังเยาวชนและผู้ที่หลงผิดกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้ ขอให้กลับตัวกลับใจเสียใหม่ เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เอาจริงในการดำเนินการกวาดล้างอย่างเข้มข้นกับผู้กระทำความผิด
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ