สถานการณ์โควิด-19 จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อรายวัน 678 ราย เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ นพ.สสจ. ชี้แจงนโยบายกระทรวงสาธารณสุข หากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่มีอาการ-มีอาการเล็กน้อย ให้ทางโรงพยาบาลดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จ.สมุทรสาคร จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 มี.ค. 65 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 678 ราย โดยพบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาลทั้งหมด จำแนกเป็นคนในจังหวัด 476 ราย (คนไทย 437 ราย, ต่างด้าว 39 ราย) และคนนอกจังหวัด 202 ราย (คนไทย 195 ราย, ต่างด้าว 7 ราย) ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 127,901 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 124,442 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,271 ราย และมีผู้เสียชีวิตรายวัน 2 ราย สะสมอยู่ที่ 1,188 ราย
ขณะที่ นพ.สุริยะ คูหารัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ชี้แจงในประเด็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย จะให้การดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก ผ่านเฟซบุ๊คเพจ “COVID – 19 สมุทรสาคร” โดยเปิดเผยว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการปรับโรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น โดยมีการดูแลผู้ป่วยแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และให้มีการแยกกักอยู่ที่บ้าน (Self-isolation) และให้ดูแลตัวเองเป็นหลัก เมื่อใดที่มีอาการหนัก ให้โทรแจ้งสายด่วน 1669 ก็จะมีทีมรถเข้าไปรับแล้วก็มารักษาต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรสาคร
โดยวิธีการ คือ เมื่อใดที่มีการตรวจ ATK ตนเองแล้วผลเป็นบวก แต่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย หรือผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น กลุ่ม 607 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มี 7 โรคเรื้อรัง) เมื่อโทรเข้ามาแล้วก็จะให้คำแนะนำ และมียาแจกจ่ายให้ เช่น ยาพาราเซตามอล วิตามินซี หรือยาฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ติดเชื้อ แล้วให้กักตัวอยู่ที่บ้าน มีการแยกพื้นที่นอน สวมหน้ากากอนามัย แยกที่รับประทานอาหาร ส่วนห้องน้ำถ้ามีแยกไว้ก็ดี แต่ถ้าไม่มีแยกก็สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่หลังจากใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วต้องมีน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำลายเชื้อในห้องน้ำด้วย ใช้เวลาดูอาการประมาณ 10 วัน ถ้าอาการดีขึ้นหรือทุเลาลงก็สามารถออกมาใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเหมือนเดิม ซึ่งแนวโน้มการรักษาจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
นพ.สุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับการมานอนในโรงพยาบาล ก็จะเป็นในกลุ่มที่มีความเสี่ยง กลุ่ม 607 ที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง เช่น มีอาการไอเยอะ ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ มีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง หายใจเร็วกว่า 25 ครั้งต่อนาที หรือมีอาการโรคเรื้อรังที่คุมไม่อยู่ เช่น โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองตีบแตก หรือมีโรคเบาหวานที่คุมไม่อยู่ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือเด็กเล็กที่หายใจลำบากหรือซึม ถ้าเข้าเกณฑ์ดังกล่าวนี้ก็จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จะทำให้โรงพยาบาลมีเตียงเพียงพอที่จะดูแลในกลุ่มเหล่านี้ได้ แต่ถ้าเป็นประชาชนที่ไม่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปนอนในโรงพยาบาล ผลที่ตามมาคือแม้อาการจะหายภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถให้กลับบ้านได้ ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นการไปแย่งเตียงแดงของผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ ก็ขอเรียนว่าตอนจะมีการปรับรูปแบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งภาครัฐและเอกชนใน จ.สมุทรสาคร และทั่วประเทศด้วย
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง