รมช.สาธารณสุข ประธานรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากมูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ มูลค่า 1.2 ล้านบาท สำหรับศูนย์ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง รพ.กระทุ่มแบน ติดตามการจัดระบบบริการประชาชน รพ.สมุทรสาคร เผย มีการพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง อุบัติเหตุฉุกเฉิน พร้อมขยายเครือข่ายโรงพยาบาลสาขา ให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 65 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและการให้บริการประชาชนของสถานบริการสาธารณสุข และเป็นประธานรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการบริการทางการแพทย์ ณ จังหวัดสมุทรสาคร เริ่มต้นเมื่อเวลา 10.00 น. นายสาธิต พร้อมคณะ เดินทางมาที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง โรงพยาบาลกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อเป็นประธานรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ป่วยยืมใช้ที่บ้าน 12 ชนิด จำนวน 137 รายการ มูลค่ารวม 1,200,000 บาท จากมูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ โดยมี น.ส.ภาสินี ปรีชาธนาพล กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ เป็นผู้แทนมอบ
โดยมี นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร, นพ.ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน, นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน, นายปรีชา ศิริแสงอารำพี รองกรรมการประธานคณะกรรมการภาคประชาชน โรงพยาบาลกระทุ่มแบน คณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน ร่วมให้การต้อนรับ
นพ.ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน กล่าวว่า ศูนย์ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 65 เพื่อพัฒนาให้เป็นโรงพยาบาลต้นแบบในการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพแบบผสมผสานภายใต้การขับเคลื่อนตามนโยบาย 3 หมอ ซึ่งได้เปิดให้บริการคือ 1. บริการส่งเสริมสุขภาพและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้สูงอายุติดสังคม ผู้สูงอายุติดบ้าน และผู้สูงอายุติดเตียง, 2. บริการงานพยาบาลชุมชนหรืองานเยี่ยมบ้าน โดยดูแลผู้ป่วยทั้ง 3 ระยะ ได้แก่ผู้ป่วยระยะฟื้นฟูที่บ้าน (Intermediate Care), ผู้ป่วยภาวะที่มีภาวะพึ่งพิงระยะยาวยาว (Long Term Care) และผู้ป่วยประคับประคอง (Palliative Care) และทางโรงพยาบาลฯ ยังมีแผนพัฒนาศูนย์ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องให้เป็นแหล่งฝึกทักษะในการดูแลผู้ป่วยให้กับญาติหรือ Care giver ให้มีความรู้และเกิดความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วยทั้ง 3 ระยะให้มากขึ้น และ 3. บริการให้ยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ที่บ้านและสอนการใช้งานให้กับญาติ
ซึ่งการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้านนั้น อุปกรณ์การแพทย์นับเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยแก่ชีวิต มีความสุขสบายทางร่างกาย และลดภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดแก่ผู้ป่วยได้ ปัจจุบันทางโรงพยาบาลกระทุ่มแบน มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถขอยืมได้ 7 ชนิด ได้แก่ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องถังผลิตออกซิเจน ที่นอนลม เครื่องดูดเสมหะ เตียง และเครื่องช่วยหายใจ CPAP
นอกจากนี้ยังมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคของให้ผู้ป่วยติดเตียง อาทิ นมผงสำหรับผู้ป่วยให้อาหารทางสายยาง นมผงสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป วอคเกอร์ เก้าอี้สุขา ไม้ค้ำยัน ฯลฯ แต่ก็ยังไม่เพียงพอในการให้ผู้ป่วยได้ยืมใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่บ้าน และยังมีผู้ป่วยมาจองคิวยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกจำนวนมาก
ดังนั้นในโอกาสที่ทางโรงพยาบาลกระทุ่มแบนได้รับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ 12 ชนิด จำนวน 137 รายการ จากมูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ จึงส่งผลให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังครอบคลุมการให้บริการกลุ่มผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้านในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายสาธิต พร้อมคณะ เดินทางมาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อติดตามการดำเนินงานบริการประชาชน และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ของทางโรงพยาบาล โดยได้ตรวจเยี่ยมการทำงานของกลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมุทรสาคร ณ ห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน (Emergency Room) และรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของทางโรงพยาบาลสมุทรสาคร ณ ห้องประชุมพระนรราชจำนง โดยมี นพ.ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร พร้อมคณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลร่วมให้การต้อนรับ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรงพยาบาลสมุทรสาคร เป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาด 602 เตียง ให้บริการดูแลประชาชนทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดใกล้เคียง และกลุ่มแรงงานต่างด้าว ในปี 65 ให้บริการผู้ป่วยนอกกว่า 1.4 ล้านคน จึงมีการขยายการบริการเพื่อลดความแออัด โดยสร้างเครือข่ายโรงพยาบาลสาขา 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลวัดเกตุมดีศรีวราราม, โรงพยาบาลนครท่าฉลอม และโรงพยาบาลวัดบางปลา ทำให้มีจำนวนเตียงรวม 676 เตียง (ไม่รวม ICU)
และยังพัฒนาศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ขยายเวลาให้บริการสวนหัวใจทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้กว่าปีละ 2,500 ราย และเตรียมแผนพัฒนาการผ่าตัดหัวใจ โดยแพทย์ศัลยกรรมทรวงอก เพื่อเพิ่มความครอบคลุมการรักษามากขึ้น
ด้านโรคมะเร็ง ให้บริการทั้งเคมีบำบัด ผ่าตัด ฉายรังสี พร้อมขยายศูนย์รังสีรักษา โรงพยาบาลนครท่าฉลอม ให้รังสีรักษาได้ 70-80 รายต่อวัน ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการฉายรังสีภายใน 6 สัปดาห์ และมีคลินิกพิเศษนอกเวลาทางรังสี ให้บริการได้ 30 -40 รายต่อวัน ลดการส่งต่อไปรับบริการรังสีรักษาได้กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนด้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน มีการแยกพื้นที่อย่างชัดเจน มีห้องแยกโรคตามมาตรฐาน พร้อมระบบความปลอดภัย ทั้ง Security & Safety และหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลวางแผน/ประสานส่งต่อ/EMS และนำระบบ Telemedicine มาใช้ในการรักษา โดยเชื่อมต่อระบบสัญญาณชีพและกล้องจากรถพยาบาลไปยังห้องฉุกเฉิน เพื่อประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลา ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที
ซึ่งทิศทางในการพัฒนาของทางโรงพยาบาลสมุทรสาคร ตนคิดว่ามาถูกทาง โดยเฉพาะเรื่องศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตนได้เพิ่มเติมเรื่องของการสื่อสารในทุกระดับ ตั้งแต่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ รับมอบนโยบายจากทางกระทรวงสาธารณสุข และทำความเข้าใจกับทางผู้บริหารของแต่ละโรงพยาบาล และทางผู้บริหารโรงพยาบาลต้องสื่อสารถึงเป้าหมายและนโยบาย ให้กับแพทย์และหัวหน้าพยาบาลในแต่ละกลุ่มงาน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชนผู้เข้ารับบริการต่อไป
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง