ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เร่งหาทางแก้สภาพการจราจรถนนพระราม 2

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นำทีมลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ คานถล่ม ถ.พระราม 2 เพื่อวางแนวทางในการจัดการจราจร และการคืนพื้นผิวจราจรที่ถูกกองวัสดุวางทับไว้ ด้านการกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกจากซาก นำร่างออกมาครบแล้ว

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 พ.ย. 2567 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายธนสาร สิทธาภา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร นายพรพิสุทธิ์ บุญศิริ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ปภ. เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงฯ และ ผู้แทนจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ได้ร่วมกันลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อวางแนวทางในการจัดการจราจรและการคืนพื้นผิวจราจรที่ถูกกองวัสดุวางทับไว้

โดยพบว่า ช่วงขาออกกรุงเทพฯ นั้น มีวัสดุกองเต็มพื้นที่ ต้องใช้ทางเบี่ยงเอกชัย ก่อนตัดเข้าถนนพระราม 2 อีกครั้ง ส่วนขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ กม.21+600 ใช้ช่องทางคู่ขนานได้ 1 ช่องทาง จึงทำให้สภาพการจราจรยังคงติดขัดเหมือนเดิม ดังนั้นจึงต้องมีการปรับแผนการจราจรเพื่อหาเส้นทางเบี่ยงเพิ่ม และที่สำคัญในระยะเร่งด่วนนี้คือ การประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รับทราบถึงการหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรบนถนนพระราม 2 ที่จะต้องผ่านจุดเกิดเหตุ อีกทั้งยังต้องมีการจัดกำลังตำรวจให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงานในการอำนวยความสะดวกทางการจราจร อีกด้วย ส่วนเรื่องของการนำวัสดุเกิดเหตุออกจากพื้นผิวจราจรเพื่อเปิดช่องทางให้รถวิ่งผ่านได้นั้น

เบื้องต้นทางวิศวกรของบริษัทฯ บอกว่า จะเริ่มจากฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ก่อน โดยการนำเครนก่อสร้างที่อยู่ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งแม้จะยังคงอยู่ในสภาพที่เห็นว่าเป็นปกติ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากเครนฝั่งที่ล้มลง ดังนั้นจึงต้องออกเป็นอันดับแรก โดยรอรถยกหนัก 500 ตัน เข้ามาหน้างานในวันจันทร์นี้ จากนั้นก็จะเข้าสู่การปฏิบัติงานยกเครนก่อสร้างด้านบนออก โดยต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งเมื่อนำออกไปแล้ว ก็จะเปิดการจราจรในช่องทางด่วน (ช่องปกติ) ถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯได้เป็นปกติ

ส่วนทางฝั่งขาออกกรุงเทพฯ นั้น การเคลื่อนย้ายวัสดุที่หักถล่มลงมา ต้องใช้เวลานานตามระยะเวลาที่รัฐมนตรีได้ให้ข้อมูลไว้ แต่ทั้งนี้ก็รีบดำเนินการให้เร็วกว่า 15 วัน เพื่อให้การจราจรทั้งสองฝั่งกลับมาเป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับในส่วนของการกู้ร่างผู้เสียชีวิต ณ วันนี้สามารถนำออกมาได้หมดแล้ว โดยสรุปคือ มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นคนไทย 2 คน และ คนต่างด้าว 4 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมี 9 คน กลับบ้านแล้ว 3 คน คงเหลือรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 6 คน ซึ่งผู้เสียชีวิตก็จะได้รับการเยียวยาตามสิทธิและคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วนผู้บาดเจ็บทางจังหวัดและเหล่ากาชาดจังหวัดได้เข้าไปเยี่ยมเยียนและจะให้การช่วยเหลือตามลำดับต่อไป

นายนริศฯ ยังบอกว่า เรื่องที่ต้องรีบดำเนินการเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือ การจราจรบนถนนพระราม 2 ที่ต้องปรับแผนและปรับเส้นทางเพิ่ม เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถเดินทางได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน และหากประชาชนที่สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวได้ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทนในระยะนี้

ขณะเดียวกัน สำนักงาน ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร รายงานว่า ได้กู้ร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากได้ครบทั้ง 6 รายแล้ว ส่วนถนนพระราม 2 ฝั่งลงใต้ยังปิดทุกช่องทาง แนะนำประชาชนใช้ทางเลี่ยง

โดยเมื่อเวลา 05.53 น. พบร่างผู้เสียชีวิตซึ่งสูญหายรายสุดท้าย รายที่ 6 ชื่อนายเพียว โก โก อายุ 18 ปี สัญชาติพม่า เจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร ในเวลา 06.15 น.

สรุป ผู้เสียชีวิต 6 ราย (เป็นคนไทย 2 ราย และเมียนมา 4 ราย) ผู้บาดเจ็บ 9 คน ออกโรงพยาบาลแล้ว 3 คน คงเหลือรักษาตัวอยู่ 6 คน (ผู้บาดเจ็บเป็นคนไทย 4 ราย และเมียนมา 5 ราย)

ในขั้นตอนต่อไป กรมทางหลวงจะให้ผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ประเมิน และวางแผนเพื่อหาแนวทางในการนำเครนลงจากตอม่อ และเร่งคืนผิวจราจรต่อไป

ปัจจุบันยังคงปิดช่องทางการจราจร ถนนพระราม 2 ขาออก ทุกช่องทาง โดยเบี่ยงไปใช้ถนนเอกชัยแทน ส่วนขาเข้าสามารถใช้ทางคู่ขนานได้ 2 ช่องทาง จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว

ทั้งนี้ สำนักงาน ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดให้ผู้ได้รับผลกระทบให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยเร็วต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *