
“สส.เท้ง-ณัฐพงษ์” ผู้นำฝ่ายค้าน หน.พรรคประชาชน ลงพื้นที่สมุทรสาคร รับฟังปัญหาการก่อสร้างทางยกระดับ ถ.พระราม 2 จากภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 ที่ท่าเรือภัตตาคาร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายณัฐพงษ์ (เท้ง) เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายณัฐพงษ์ (ฟลิ้น) สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร เขต 1 ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครในแคมเปญ “เท้งทั่วไทย” เพื่อพบปะพูดคุยและรับฟังปัญหาจากภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชนในพื้นที่ ในประเด็นการก่อสร้างทางยกระดับ ถ.พระราม 2 ที่ส่งผลกระทบและเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง โดยทางพรรคประชาชนจะได้รวบรวมข้อมูลที่ได้รับ นำไปสู่การผลักดันแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
สำหรับเสียงสะท้อนของประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างทางยกระดับ ถ.พระราม 2 โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ได้กล่าวถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบด้านเสียงระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเคยก่อสร้างในช่วงกลางวันจนส่งผลกระทบต่อนักเรียน ก่อนมีการเปลี่ยนเวลามาเป็นช่วงกลางคืน ปัญหาน้ำท่วมที่การก่อสร้างไปอุดทางระบายน้ำ รวมถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ขณะที่ หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า ถ.พระราม 2 เป็นปัญหาของผู้ประกอบการในจังหวัดฯ มาโดยตลอด ที่ต้องแบกรับต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น การแบ่งซอยสัญญาก่อสร้างทำให้มีผู้รับเหมาก่อสร้างออกเป็นหลายตอน ซึ่งได้รับทราบข้อมูลมาว่าบางบริษัทอาจขาดสภาพคล่อง อาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงอยากให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามที่ประกาศล่าสุด คือภายในสิ้นปี 2568 และในอนาคตก็อยากให้ช่วยผลักดันเส้นทางริเวียร่าสมุทรสาคร-สมุทรปราการ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้เส้นทาง ลดความหนาแน่นของการจราจรบน ถ.พระราม 2 ด้วย
ด้านตัวแทนภาคประชาชน ที่ใช้เส้นทาง ถ.พระราม 2 มาตั้งแต่ปี 2516 กล่าวว่า ผ่านมาครึ่งศตวรรษแล้ว ถนนแห่งนี้ยังไม่เคยหยุดการก่อสร้างเลย แล้วก็มีปัญหาตลอด ทั้งปัญหาแสงสว่าง ความปลอดภัย ฯลฯ ควรสื่อสารกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง มีช่องทางหรือแพลตฟอร์มให้ประชาชนได้สะท้อนปัญหากับหน่วยงานโดยตรงด้วย
ส่วนภาคประชาสังคม ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม กล่าวว่า สำหรับมาตรการหรือบทลงโทษต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุก็ว่ากันไป แต่อยากเสนอมาตรการเชิงป้องกัน คือต้นทางและกลางทาง ไม่ใช่จัดการปลายทางคือเหตุเกิดแล้วอย่างเดียว มาตรการทางวิศวกรรมที่ให้ความสำคัญกับความเข้มงวดในการตรวจสอบการก่อสร้าง รวมถึงเสนอให้แก้ไขกฎหมายที่ควบคุมเฉพาะวิศวกร มาเป็นการควบคุมการก่อสร้างทั้งระบบ ตั้งแต่แรงงาน ผู้วางแผน ผู้ควบคุม ที่ต้องผ่านการฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ต้องมีประกาศนียบัตรก่อนทำงาน อีกทั้งก่อนเข้าหน้างานควรมีการทดสอบคนงาน หรือการสัมภาษณ์ในหน้าที่สำคัญ
รวมถึงการขึ้นทะเบียนอุปกรณ์ก่อสร้างทุกชนิด โดยเฉพาะอุปกรณ์ใหม่ ๆ อย่างชิ้นที่เกิดเหตุเอง ก็ยังไม่ได้มีกฎระเบียบมาควบคุมเพราะเป็นของใหม่สำหรับประเทศไทย และต้องมีการตรวจเช็กเป็นระยะด้วย นอกจากนี้ ยังควรมีมาตรการการตรวจสอบการก่อสร้างจากบุคคลที่สาม (third party) มีกล้องวงจรปิดหรือกล้องประจำตัวให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่หน้างาน หากเกิดอะไรผิดพลาดจะได้ติดตามสาเหตุกันได้ และควรเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนได้รับทราบด้วย เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยหลังจากรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วน ว่า เห็นด้วยกับหลาย ๆ ความเห็น ข้อเสนอ และมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะการแก้ไขเชิงโครงสร้าง เช่น มาตรการควบคุมการก่อสร้างทั้งระบบ ซึ่งในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ยินดีที่ได้มารับฟังข้อมูลและจะพยายามนำไปผลักดันในสภาต่อไป
ขณะที่นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร เขต 1 กล่าวว่า การพูดคุยกันในครั้งนี้ต้องแยกเป็นสองส่วน คือ ในระดับจังหวัดและระดับประเทศ สำหรับในระดับจังหวัดต้องช่วยกันส่งเสียงและติดตามตรวจสอบการก่อสร้างทางยกระดับ ถ.พระราม 2 ให้แล้วเสร็จตามกำหนด และสมดุลกันระหว่างความรวดเร็วในการก่อสร้างและความปลอดภัย เพื่อให้เศรษฐกิจปากท้องของคนในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดต่อเนื่องอย่างสมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งต้องไม่มีปัญหาหรือผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอื่น ๆ ตามมา เช่น ปัญหามลพิษทางอากาศและทางเสียง น้ำท่วมขังบนพื้นผิวจราจรหรือพื้นที่โดยรอบ และเรียกร้องมาตรการเยียวยาตามที่ทางภาคเอกชนได้เสนอ
ส่วนระดับประเทศ ต้องเสนอมาตรการจัดการความปลอดภัย นำข้อเสนอที่ได้รับฟังในจังหวัดไปผลักดันต่อ หรือแม้กระทั่งระหว่างนี้ การจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับโครงการก่อสร้างบน ถ.พระราม 2 ได้ดีที่สุด คือ ควรมีการตรวจสอบจุดที่มีความเสี่ยงตลอดโครงการทั้งหมด เห็นทุกฉากทัศน์ ทุกความเสี่ยง และการจัดการ รวมถึงมีการอบรมคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งก็ต้องใช้กลไกสภาในการนำความเห็นจากการพูดคุยของทุกฝ่ายไปสะท้อนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งยังเหลือเวลาก่อสร้างอีกเป็นปี และการก่อสร้างในครั้งต่อ ๆ ไป สร้างผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนน้อยลง มีมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นลำดับแรก
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ