รอต้อนรับ “ประยุทธ์” สมุทรสาครคึกคัก ชงงบหนุนภาคกลาง 1.8 พันล้าน

สมุทรสาครเตรียมความพร้อมรอรับคณะ “ประยุทธ์” และ ครม. ลงพื้นที่ ก่อนประชุม ครม.สัญจรที่เพชรบุรี สศช. เตรียมเสนอร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคกลางตอนล่าง 2 งบประมาณ 1.8 พันล้าน นักการเมือง 4 จังหวัดรอรับที่เพชรบุรี โฆษกรัฐบาลจี้กรมประชาฯ ประชาสัมพันธ์ลงลึกการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล

วันที่ 4 มี.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า ที่จังหวัดสมุทรสาคร มีการเตรียมความพร้อมและตรวจพื้นที่ เพื่อรอต้อนรับคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดเพชรบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจเข้มและซักซ้อมการตรวจเยี่ยมบริเวณจุดต่างๆ เสมือนจริง

โดยเฉพาะที่มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน ต.บ้านหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีนายสมพงศ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิฯ และเจ้าของรางวัลบุคคลที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2560 ให้การต้อนรับและพาคณะเยี่ยมชมการดำเนินงานของมูลนิธิฯ อีกทั้งมีแรงงานต่างด้าว มาร่วมกิจกรรม และรอต้อนรับนายกรัฐมนตรีด้วย

จากการสอบถาม แรงงานรู้สึกพึงพอใจและขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ได้เปิดให้มีการลงทะเบียน ณ ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ หรือ OSS เพราะทำให้สามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกกฎหมาย จากนั้นคณะเยี่ยมชมบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด เพื่อรับทราบข้อมูลการพัฒนาสมุทรสาครให้เป็น Hub of seafood และกระบวนการอุตสาหกรรมอาหารทะเล รวมถึงเยี่ยมชมการทำงานของแรงงงานที่องค์การสะพานปลาสมุทรสาครด้วย

– “ประวิตร” จะเยี่ยมชมศูนย์ OSS แรงงานต่างด้าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดเตรียมสถานที่ของโรงพยาบาลสมุทรสาคร และเตรียมข้อมูลรายงานให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบข้อมูลการดำเนินงานของศูนย์ OSS จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเปิดรับลงทะเบียนภายในวันที่ 31 มี.ค. 2561 และจากข้อมูลขณะนี้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในจังหวัด จำนวน 104,207 คน แบ่งเป็นประมงและแปรรูปสัตว์น้ำ จำนวน 4,756 คน บัตรสีชมพู จำนวน 70,991 คน และกลุ่มผ่านการคัดกรองเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จำนวน 28,460 คน

โดยที่โรงพยาบาลแห่งนี้แรงงานต่างด้าวจะมาตรวจสุขภาพ เพื่อประกอบการลงทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่า นายจ้างได้เร่งพาแรงงานต่างด้าวมาดำเนินการเข้าสู่ระบบภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ เพื่อไม่ให้พ้นกำหนด มิเช่นนั้นจะมีความผิดทางกฎหมาย และจะถูกดำเนินคดีทั้งนายจ้างและแรงงานต่างด้าว

– แจ้งประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง

ขณะเดียวกัน ได้มีการประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ระบุว่า เนื่องจากในวันที่ 5 มี.ค. นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่เวลา 07.30 – 12.00 น. ได้แก่ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร, มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN), บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และองค์การสะพานปลาสมุทรสาคร จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้การจราจรในวันและเวลาดังกล่าว หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ขบวนรถของนายกรัฐมนตรีและคณะจะผ่าน เพื่อความสะดวกและลดปัญหาการจราจรติดขัด

– สศช. เสนออนุมัติงบหนุนภาคกลาง 1.8 พันล้าน

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุม ครม.สัญจร วันที่ 6 มี.ค.นี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมเสนอร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ระยะเวลา 4 ปี (2561-2564) ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ให้ที่ประชุมพิจารณา วงเงินงบประมาณรวม 1,853 ล้านบาท ซึ่งตามแผนได้กำหนดแนวทางพัฒนากลุ่มจังหวัดนี้ให้เป็นฐานการผลิตและบริการในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม อาหาร การท่องเที่ยว ที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับโครงการในร่างแผนพัฒนาฯ มีทั้งหมด 13 โครงการ ใน 4 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์แรก สร้างต้นทุนทางทรัพยากรภาคการเกษตร (2561-2564) วงเงิน 354 ล้านบาท เช่น โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตสัตว์น้ำ ของกลุ่มงานประมง 59 ล้านบาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรกรปลอดภัยและได้มาตรฐาน ของกลุ่มการเกษตร 41 ล้านบาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเกษตร 117 ล้านบาท โครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาและตรวจสอบผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัยได้มาตรฐาน 68 ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าปศุสัตว์ให้ได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย และปลอดมลภาวะของกลุ่มงาน ปศุสัตว์ 69 ล้านบาท

ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงการท่องเที่ยว การค้า และพื้นที่ทางเศรษฐกิจ ของแขวงทางหลวงชนบทในกลุ่มจังหวัด วงเงินงบประมาณ 776 ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (จ.เพชรบุรี) วงเงิน 256 ล้านบาท ยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงิน 532 ล้านบาท โครงการฟื้นฟูฐานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ 83 ล้านบาท และยุทธศาสตร์ที่ 4 เพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรม และแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรสู่ตลาดเออีซี 158 ล้านบาท โครงการพัฒนาตลาดกลางออนไลน์ 16 ล้านบาท โครงการพัฒนาส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรสู่ระบบมาตรฐาน 12 ล้านบาท

– “อลงกรณ์” ชงฟลัดเวย์เพชรบุรีป้องกันน้ำท่วม

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมเชิญผู้นำท้องถิ่นตั้งแต่ อดีต ส.ว. และ อดีต ส.ส. ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วย จ.เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และ ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันตก ภาคใต้ ในโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ยุทธศาสตร์ประตูสู่ภาคใต้เน้นเรื่องโลจิสติกส์ ยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยว โครงการป้องกันน้ำท่วม โดยเฉพาะถนนเพชรเกษมไม่สามารถใช้ได้ จึงอยากเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีโครงการสร้างฟลัดเวย์ จากแม่น้ำเพชรบุรี ออกไปสู่ทะเลอ่าวไทย เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การพูดคุยครั้งนี้คงไม่มีการพูดถึงเรื่องการเมือง ถ้าจะเกี่ยวข้องคงเป็นการพูดคุยเรื่องแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ปรองดอง และแนวทางการปฏิรูปประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติมากกว่า

– “รังสิมา” ขอเอาเสาไฟฟ้าลงดินที่แม่กลอง

ด้าน น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลุ่มอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าจะไม่มีการพูดเรื่องการเมือง เพราะกลัวจะถูก พล.อ.ประยุทธ์ ตำหนิ แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะให้พูดเราก็จะพูด แต่การพูดคุยครั้งนี้จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ แก้ปัญหาใน จ.สมุทรสงคราม ที่มีปัญหาเรื่องสายไฟฟ้า ทำให้ทัศนียภาพของจังหวัดไม่สวยงาม เพราะ จ.สมุทรสงคราม เป็นจังหวัดที่เน้นเรื่องการท่องเที่ยว อยากให้มีการโครงการจัดระเบียบนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน เพื่อให้เกิดความสวยงาม นอกจากนี้จะขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ แก้ปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง เนื่องจากขณะนี้เกิดการทุจริตแทบทุกพื้นที่ทั้งในหน่วยงานของรัฐเองด้วย

– “ประจวบฯ” เสนอรัฐบาลเร่งผลักดัน “ด่านสิงขร” จุดผ่านแดนถาวร

นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.สัญจร ครั้งนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะร่วมหารือเชิงนโยบายขอให้รัฐบาลใช้การเจรจาทวิภาคีในโอกาสต่างๆ พูดคุยกับทางการเมียนมา ผลักดันให้ตอบรับการประชุมร่วมกับฝ่ายไทยในการลงนามให้การรับรองผลการสำรวจรายละเอียดเขตแดน (Joint Detail Survey) บริเวณด่านสิงขร เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยสามารถประกาศยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวร

โดยคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าชายแดนได้อย่างเต็มรูปแบบ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวไทยและเมียนมา หลังที่ผ่านมาฝ่ายเมียนมายังคงไม่ตอบตกลงเนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อเรื่องของการปักปันเขตแดน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าหากด่านสิงขรเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจการค้าชายแดนเกินกว่าปีละ 3 พันล้านบาท หลังจากปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมามีมูลค่าการนำเข้าส่งออกสินค้าจำนวนกว่า 500 ล้านบาทและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทุกปี

– “โฆษกรัฐบาล” สั่ง ปชส. เขต 8 กาญจนบุรี ระดมเสนอข้อมูล

พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า การประชุม ครม.สัญจร จ.เพชรบุรี ในวันที่ 5 – 6 มี.ค. นี้ ได้สั่งการให้สำนักประชาสัมพันธ์เขต 8 กาญจนบุรี ซึ่งดูแลพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีจัดการประชุมในครั้งนี้ ให้ประสานความร่วมมือกับสื่อทั้งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย และสื่อภาคประชาชน ทั้งอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน (อป.มช.) วิทยุชุมชน และหอกระจายข่าว ร่วมกันเสนอข้อมูล และข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะข้อมูลของสถานที่ต่าง ๆ ที่รัฐมนตรีแต่ละคนลงไปตรวจพื้นที่ ว่าก่อนหน้านี้ประสบปัญหาอย่างไร มีการแก้ไขอย่างไร ผ่านกระบวนการใด ตามหลักโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งการประชุมนอกสถานที่ของคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง จะลงตรวจการปฏิบัติงานที่น่าสนใจในแต่ละพื้นที่ว่ามีความคืบหน้า และปัญหาในการปฏิบัติการอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดความใกล้ชิด และเห็นถึงการทำงานที่แท้จริงในแต่ละโครงการ

“ขอให้ประสานความร่วมมือกับสื่อให้ครอบคลุมทุกช่องทางนำเสนอข่าว ครม.ให้เป็นเรื่องเล่า รับฟังแล้วสนุก สำหรับบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ ที่ต้องลงพื้นที่ทำหน้าที่พิธีกร จะต้องจัดระเบียบเวที เพื่อผู้ฟังได้อยู่ในความพร้อมที่จะรับฟังข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนค่อยเล่า หรือนำเสนอข้อมูลต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของประชาชนผู้รับสารให้ฟังอย่างเข้าใจและขยายผลประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

นอกจากนี้ พล.ท.สรรเสริญ ยังกล่าวอีกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกรมประชาสัมพันธ์ทุกคน นอกจากรายงานภารกิจของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแล้ว ต้องเจาะลึกปัญหาของแต่ละพื้นที่พร้อมองค์ความรู้ของชุมชนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อที่จะเป็นองค์ความรู้ของพื้นที่อื่นต่อไปด้วย และยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ที่รับหน้าที่เป็นพิธีกรก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ไปยังที่ต่าง ๆ ให้ใช้โอกาสดังกล่าวในการสร้างการรับในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของรัฐบาล เช่น การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการไทยนิยม ยั่งยืน แก่ประชาชน

– ปัดย้ายฝูงลิงพ้น “เขาวัง” รับ “ประยุทธ์”

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี ทำหนังสือชี้แจงถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า จะย้ายลิงที่อยู่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ไปไว้แหล่งอื่น ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะเดินทางมาประชุม ครม.สัญจร กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด สำหรับแผนงานการจัดการกับปัญหาลิงที่มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ บริเวณเขาวังและอีกหลายพื้นที่เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการมาประชุม ครม. สัญจรของนายกฯ และคณะ อย่างไรก็ตามในพื้นที่เขาวังเวลาจัดงานสำคัญต่างๆ จะใช้วิธีนำลิงกรังมาผูกไว้เพื่อขู่ลิงในพื้นที่ไม่ให้เขามาวุ่นวายเวลาจัดงาน

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *