นายกรัฐมนตรี กล่าวกับชาวสมุทรสาคร ย้ำเข้ามาแก้ปัญหาทั้งประเทศ ไม่เน้นขายฝัน แต่เน้นยุทธศาสตร์เพื่ออนาคต ถ้าเน้นแต่เรื่องเสรีภาพไร้ขีดจำกัด ทุกคนไม่มีความสุข วอนเลือกตั้งเลือกคนที่มีหลักการ ทำงานยั่งยืน แนะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-ข้าราชการเรียนรู้ประชาธิปไตย ปฏิเสธสืบทอดอำนาจ วอนช่วยเดินหน้าไทยนิยม ย้ำไม่ต้องการอะไรนอกจากประเทศดีขึ้น
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยให้การต้อนรับ โดยเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จาก พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพ ฯ มาลงจอดที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสมุทรสาคร
เริ่มต้นเมื่อเวลา 08.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาด้วยรถตู้สีดำ ทะเบียน กก 3344 สมุทรสาคร มาที่มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ภายในหมู่บ้านมหาชัยเมืองทอง ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมีนายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิ ฯ ผู้ได้รับรางวัลบุคคลที่มีผลงานดีเด่นด้านการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2560 พร้อมด้วยเครือข่ายแรงงานข้ามชาติ นักเรียนข้ามชาติที่เรียนในระบบโรงเรียนและครูผู้สอนชาวไทยให้การต้อนรับ และนำคณะชมการดำเนินงานของมูลนิธิ ฯ
นายสมพงศ์ กล่าวถึงการมาตรวจเยี่ยมของนายกรัฐมนตรีและคณะ ว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญในประเด็นด้านแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยซึ่งมีอยู่จำนวนมาก รวมทั้งประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ การที่ได้พบปะพี่น้องแรงงานข้ามชาติด้วยตัวเองน่าจะมีโอกาสเห็นภาพชัดเจนในการรวมกลุ่มกันของแรงงานข้ามชาติ เพื่อเป็นกลไกการแก้ไขปัญหาในระดับล่าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีมองว่ากลไกเหล่านี้ภาครัฐไม่ควรมองข้าม พยายามที่จะต้องดึงมาทำงานร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ประเด็นปัญหาเรื่องแรงงานข้ามชาติ ที่ต่างประเทศจับตามองเป็นพิเศษนั้นหายไป
ต่อมาเมื่อเวลา 09.15 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อรับฟังรายงานแนวทางการพัฒนาสมุทรสาครให้เป็น Hub of Seafood โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และรายงานการดำเนินกิจการของบริษัท ฯ จากนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมเยี่ยมชมกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมอาหารทะเล พบปะพนักงานและแรงงานเกือบ 200 คน
จากนั้นเมื่อเวลา 11.20 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาที่องค์การสะพานปลาสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานขององค์การสะพานปลาสมุทรสาคร โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน และแรงงานประมง ร่วมให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างพบปะประชาชน ว่า หลายคนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลอยู่มา 4 ปีแล้วไม่ได้อะไร แต่เราจะทำตามใจตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างต้องเริ่มต้นให้ได้ก่อน ถึงจะมองเห็นอนาคตของเราทุกคน อยากให้พวกเรามองไกลกว่านี้อีกสักนิด ที่มาวันนี้มีเจตนารมณ์มุ่งมั่นในการแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่จังหวัดเดียว แต่ทำทั้งประเทศ และถ้าเราสามารถทำให้เศรษฐกิจดีได้ทั้งประเทศ เราก็จะมีรายได้มาพัฒนาประเทศ
ขอร้องว่าอย่าให้ใครมาบอกว่าถ้าเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำโน่นนี่ให้ ตนจะไม่ขายความคิดหรือขายฝันแบบนั้นเด็ดขาด ตนจะขายว่าเราจะต้องเดินหน้าประเทศอย่างมีขั้นตอนและยุทธศาสตร์ว่าอนาคตเราจะทำอย่างไร ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่การหาเงิน ถ้ายังหาได้เท่าเดิมไม่สร้างเศรษฐกิจใหม่ ไม่ทำ EEC หรือ IUU รายได้ก็คงจะลดลง หรือยังแย่อยู่
ถ้าประชาธิปไตยที่มองแต่สิทธิเสรีภาพโดยไม่มีขีดจำกัด ตนเชื่อว่าทุกคนไม่มีความสุข อย่างการเลือกตั้งกำลังจะมาถึง ตนอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าคือกลไกของประชาธิปไตย แต่ทุกคนต้องมีความรู้ว่าจะเลือกใครอย่างไร จะต้องเลือกคนที่มีหลักการ มีวิธีการทำงานที่ยั่งยืน อย่าไปเลือกคนที่ให้นี่ให้โน่นแล้วประเทศมันล่มสลาย ทุกคนจะเดือดร้อน โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ต้องรู้ว่าประชาธิปไตยต้องเป็นแบบไหน จะเลือกตั้งเอาใครก็ได้ที่แจกเยอะ ๆ ถ้าวันนี้ยังทำแบบนั้นก็ต้องตายหมดทั้งประเทศ ที่เคยได้ก็จะไม่ได้ เงินเดือนก็จะไม่มีจ่ายคน
นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลนี้พร้อมรับการตรวจสอบ ตนเองมีคดีติดตัว 400-500 คดี หลายคนบอกว่าตนต้องการสืบทอดอำนาจ แต่หากคดีความต่าง ๆ ชี้ว่าตนผิด ตนก็จะโดนเละไปหมด อย่างไรก็ตาม ที่ถูกกล่าวหาโจมตี ขอให้ช่วยตนบ้าง เพราะหลายเรื่องถูกบิดเบือน วันนี้เราเดินหน้าประเทศด้วยนโยบายไทยนิยม โดยลงไปดูความต้องการประชาชน สอนประชาชนให้รู้จักกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่น มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน ทั้งนี้ ขอบคุณประชาชนชาวสมุทรสาครที่มาต้อนรับ ตนไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น นอกจากทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
รวมทั้ง รัฐสวัสดิการเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าเราให้มากเกินไปก็จะทำให้ประเทศล้มเหลว ระบบงบประมาณ การเงิน การคลังล้มไปทั้งหมด เช่นความล้มเหลวในอดีตที่ผ่านมา ตนต้องรับผิดชอบปัญหาจากอดีต ที่ต้องสูญเสียเงินไปกว่า 5-6 แสนล้าน ตนต้องหาเงินใช้หนี้ให้เขา ดังนั้น เราต้องอย่าให้ใครมาทำเช่นนี้อีก
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการพบปะกับประชาชน นายกรัฐมนตรีและคณะได้รับฟังบรรยายสรุปการติดตั้งระบบระบุตำแหน่งเรือประมงไทย (VMS) และการควบคุ้มการแจ้งเข้า – ออกของเรือประมง รวมทั้งชมการสาธิตระบบฐานข้อมูลการสแกนม่านตา (Iris Scan System) และการรายงานผลการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (OSS) จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งก่อนเดินทางกลับได้ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู ขณะกำลังขึ้นรถตู้ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะมีภารกิจที่จะต้องไปตรวจราชการที่ จ.เพชรบุรี ก่อนที่จะประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในวันที่ 6 มี.ค. ต่อไป
สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ