อธิบดี สถ. แถลงข่าว “18 มีนา วันท้องถิ่นไทย” รำลึก 113 ปี สุขาภิบาลท่าฉลอม

อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “วันท้องถิ่นไทย” ประจำปี 2561 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 วัดช่องลม ท่าฉลอม น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงยกฐานะสุขาภิบาลท่าฉลอม และเตือนใจประชาชนรู้จักหน้าที่ตนเองในการดูแลท้องถิ่น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 มี.ค. 2561 ที่ห้องประชุม 5501 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพ ฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงาน “วันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2561” พร้อมด้วย นายขจร ศรีชวโนทัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

นายชาตรี ศรีสันต์ ผู้เชี่ยวชาญสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายประเสริฐ วชิรเขื่อนขันธุ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ดร.นพดล แก้วสุพัฒน์ เลขานุการนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย นายมณฑล ไกรวัฒนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และนายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร

อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า วันท้องถิ่นไทย เป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งกับการพัฒนาประเทศชาติ เนื่องจากเป็นวันที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ร.ศ.124 (พ.ศ.2448) นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้แก่ประชาชน และเป็นการถือกำเนิดของการปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งแรกในประเทศไทย โดยในวันดังกล่าว ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทำพิธีเปิด ถนนถวาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีงามของชุมชนท่าฉลอม เกิดขึ้นจากคนในชุมชนช่วยกันบริจาคทรัพย์และจัดสร้างขึ้น ทำให้ประชาชนเดินทางไปมาได้สะดวก

สำคัญที่สุด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทอดพระเนตรเห็นประชาชนได้ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดของชุมชนท่าฉลอม เป็นการเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งแต่เดิมไม่ได้รวมตัวดูแลกันในฐานะท้องถิ่น บ้านเมืองมีความสกปรกรกรุงรัง เมื่อครั้งพระองค์เสด็จประพาสเมืองนครเขื่อนขันธ์ (เมืองพระประแดง จ.สมุทรปราการ) และได้ทอดพระเนตรเห็นสภาพตลาดเมืองนครเขื่อนขันธ์สกปรกมาก

จึงทรงมีพระราชดำรัสในที่ประชุมเสนาบดีว่า “โสโครกเหมือนกับตลาดท่าจีน” (หรือตลาดท่าฉลอม)  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับพระยาพิไชยสุนทร ผู้ว่าราชการเมืองสมุทรสาคร ได้เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้าชาวจีนในตลาดท่าฉลอม มารวมตัวกันเพื่อปรับปรุงแก้ไขความสะอาด และสร้างถนนถวายดังกล่าว

ดังนั้นวันที่ 18 มีนาคม ร.ศ. 124 จึงมีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานอำนาจให้ชุมชนได้ช่วยกันดูแลพื้นที่ของตัวเอง และที่สำคัญพระองค์ได้พระราชทานเงินภาษีโรงเรือน หรือภาษีโรงร้านในท่าฉลอมทั้งหมด มอบให้ท้องถื่นได้ทำนุบำรุงดูแลพื้นที่ของตัวเอง ถือได้ว่าสมัยเมื่อ 113 ปีที่แล้ว หลักการกระจายอำนาจเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งอำนาจหน้าที่ งบประมาณ และบุคลากรให้บริหารจัดการชุมชนกันเอง

กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอให้รัฐบาลกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคมของทุกปี เป็น “วันท้องถิ่นไทย”ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2553 เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อเตือนใจคนในประเทศนี้ได้รู้จักหน้าที่ของตนเอง เหมือนคนท่าฉลอมเมื่อ 113 ปีที่แล้ว ที่รู้จักหน้าที่ในการดูแลช่วยเหลือให้บ้านเมืองของตัวเองมีความสุข ผู้คนอยู่อาศัยในพื้นที่ ๆ มีความสะอาด มีการเดินทาง การทำมาหากินที่สะดวกสบาย ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ถ้าทุกคนช่วยกัน

สำหรับการดำเนินการจัดงานวันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2561 ทุกจังหวัดทั่วประเทศจะจัดพิธีถวายราชสักการะ และกล่าวถวายราชสดุดี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่อื่นตามความเหมาะสม โดยมีศูนย์กลางการจัดงานที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ในวันอาทิตย์ที่ 18 มี.ค. 2561

โดยเชิญผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น และประชาชน เข้าร่วมพิธี เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้ประชาชนในท้องถิ่น นอกจากนี้ ทั่วประเทศจะจัดนิทรรศการแสดงผลงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ การให้บริการประชาชน หรือกิจกรรมอื่นๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เช่น การออกหน่วยเคลื่อนที่ศูนย์บริการสาธารณสุข การจัดแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ อีกด้วย

อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกรม ฯ ยังคงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง อยู่บนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมที่จะรับฟัง ความคิดเห็น และประสานความร่วมมือ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล มีมาตรฐานการให้บริการสาธารณะ และส่งเสริมการกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ภาคประชาชน โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนาประเทศ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง

สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *