
ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เปิดประชุมแนวทางการแก้ปัญหาศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติ พบมี 5 แห่งไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เปิดรับเด็กข้ามชาติราว 800 คน มอบศึกษาธิการจังหวัดฯ ตั้งชุดบูรณาการลงพื้นที่ตรวจ เริ่ม 17 พ.ค. 68 หากเพิกเฉยสั่งปิดทันที
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ค. 2568 ที่ห้องประชุมมหาชัย (201) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติจังหวัดสมุทรสาคร โดยมี นายอาคม ศาณศิลปิน ศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร หรือ สพป.สมุทรสาคร ผู้แทนรอง ผอ.รมน.จว.สมุทรสาคร รวมถึงตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางการดำเนินงานและบังคับใช้กฎหมายกับศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติ ที่มีลักษณะอาจไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

จากการรายงานของ สพป.สมุทรสาคร พบว่าปัจจุบันมีศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติทั้งหมด 5 แห่ง มีจำนวนเด็กข้ามชาติเข้าศึกษาอยู่ในศูนย์ต่าง ๆ รวมกว่า 800 คน ได้แก่ 1. ศูนย์ฝึกอบรมและส่งเสริมความรู้ภาษาแก่เด็กข้ามชาติ แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาร์ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าเรียนในระบบการศึกษาไทย (USA-MTEC) โดยมีมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เป็นผู้ดูแล ตั้งอยู่ภายในซอยร่วมใจ 2 ถ.เศรษฐกิจ 1 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร,
2. ศูนย์ฝึกอบรมและส่งเสริมความรู้ภาษาพัฒนาทักษะชีวิตแก่เด็ก (DTIC) มหาชัยเมืองใหม่ โดยมีมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เป็นผู้ดูแล ตั้งอยู่ในพื้นที่มหาชัยเมืองใหม่ ต.คอกกระบือ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร, 3. ศูนย์ฝึกอบรมภาษา ศาสนาวัฒนธรรม และการศึกษาเรียนรู้เครือข่ายอาสาสมัครเพื่อสังคมแรงงานข้ามชาติเด็กข้ามชาติสมุทรสาคร (MMECE) โดยมีมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เป็นผู้ดูแล ตั้งอยู่ในพื้นที่มหาชัยนิเวศน์ ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร,
4. ศูนย์มาริสต์เพื่อผู้อพยพย้ายถิ่น (MCM) โดยมีศูนย์คาทอลิกนักบุญอันนาเป็นผู้ดูแล ตั้งอยู่ภายในซอยเศรษฐกิจ 5 (ซอยบ่อนไก่) ถ.เศรษฐกิจ 1 ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร และ 5. ศูนย์คาทอลิกนักบุญยออากิมเพื่อผู้อพยพย้ายถิ่น (JCCM) โดยมีศูนย์คาทอลิกนักบุญอันนาเป็นผู้ดูแล ตั้งอยู่ภายในโครงการบ้านเอื้ออาทรจังหวัดสมุทรสาคร (ท่าจีน) อาคาร 33 ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

จากการตรวจสอบข้อมูลศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติทั้ง 5 แห่ง พบว่ายังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เนื่องจากไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เช่น สถานที่ตั้งศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติของมูลนิธิต่าง ๆ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้นอกพื้นที่ตั้งของมูลนิธิ, อาคารสถานที่เรียนที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด, การจ้างครูและบุคลากรทางการศึกษา และการจัดหลักสูตรการศึกษา รวมถึงการยื่นเอกสารขอจัดตั้งศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติ เป็นต้น ดังนั้นในวันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 พ.ค. 2568 ศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติทั้ง 5 แห่งจึงไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ หากมีการเปิดรับเด็กข้ามชาติเข้ามาเรียน ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายทันที
ขณะที่แนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับเด็กข้ามชาติกว่า 800 คน ที่เข้ารับการศึกษาในศูนย์การเรียนฯ ทั้ง 5 แห่งดังกล่าวนั้น ทาง สพป.สมุทรสาคร ได้มีการจัดหาสถานที่เรียนไว้รองรับแล้วทั้งหมด 43 โรงเรียน แต่ปรากฏว่ายังไม่มีผู้แทนศูนย์การเรียนฯ หรือทางผู้ปกครองของเด็กเข้าไปติดต่อเพื่อนำบุตรหลานแรงงานข้ามชาติเข้าเรียนร่วมกับเด็กไทยในปีการศึกษา 2568 นี้ ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากยังไม่รับทราบข้อมูลข่าวสารที่ต้องให้บุตรหลานเข้าเรียนในสถานศึกษา หรือไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้ข้อสั่งการว่า หากศูนย์การเรียนเด็กข้ามชาติแห่งใดไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น โดยนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. นี้เป็นต้นไป โดยมอบหมายให้ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งชุดบูรณาการความร่วมมือ ลงพื้นที่จัดระเบียบการศึกษาให้แก่บุตรหลานแรงงานข้ามชาติ ด้วยการเข้าตรวจศูนย์การเรียนรู้เด็กข้ามชาติทุกแห่ง และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการลักลอบเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ทางอำเภอ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานโยธาฯ ก็ต้องไปตรวจความพร้อมของตัวอาคาร หากไม่เป็นไปตามที่กำหนดต้องสั่งระงับใช้อาคารทันที
ทั้งนี้ หากพบการกระทำความผิดใด ก็ให้ดำเนินการทางกฎหมายในทุกกรณี ตั้งแต่ผู้ดูแล ผู้สอน ไปจนถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ส่วนบรรดาเด็กข้ามชาติก็ให้ผู้ปกครองมารับ แล้วส่งเข้าเรียนยังสถานศึกษาในสังกัด สพป.สมุทรสาคร พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำกับทุกโรงเรียนหรือสถานศึกษาทุกแห่ง ต้องร่วมกันดูแลและให้การศึกษาลูกหลานแรงงานข้ามชาติเสมือนเด็กไทย อีกทั้งยังต้องไม่กระทำกิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ หรือขัดต่อความมั่นคงของประเทศชาติอย่างเด็ดขาด
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ