คุมประพฤติภาค 7 ประกวดทำอาหาร “Street Food สร้างอาชีพ” ต่อยอดสู่เวทีมืออาชีพ คืนคนดีสู่สังคม

สำนักงานคุมประพฤติภาค 7 จัดประกวดการทำอาหาร “Street Food สร้างอาชีพ” เฟ้นหาผู้ชนะส่งเข้าประกวดในระดับประเทศ – คุมประพฤติประจวบคีรีขันธ์ ชนะเลิศเมนูอาหารคาว ส่วนคุมประพฤติสมุทรสาคร แชมป์เมนูอาหารหวาน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.ค. 2568 ณ สถานที่เพื่อให้การสงเคราะห์ (บ้านกึ่งวิถี) ศาลาตะเคียนนุช วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันประกวดการทำอาหาร โครงการ “Street Food สร้างอาชีพ” เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเป็นตัวแทนของสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 เข้าแข่งขันในระดับประเทศ โดยมี นายบรรพต จันทรวงศ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย นางวราภรณ์ เปล่งแสง ผู้ตรวจราชการกรมคุมประพฤติ รวมถึงประธานอาสาสมัครคุมประพฤติภาค 7 ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติในภาค 7 หัวหน้าส่วนราชการ และผู้สนับสนุนโครงการเข้าร่วม โดยการแข่งขันครั้งนี้ ได้เชิญกรรมการร่วมตัดสินทั้งหมด 3 ท่าน ได้แก่ นายอำนาจ คำนำ หรือเชฟอำนาจ จากสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย, นายหมวดตรี เพิ่มสิน เอียดเอื้อ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร และนายณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร

สำหรับการแข่งขันจะเป็นการทำอาหารทั้งประเภทอาหารคาว และประเภทอาหารหวาน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติได้แสดงผลงานและแข่งขันกัน เพื่อยกระดับคุณภาพฝีมือให้เป็นมาตรฐาน และต่อยอดผู้ที่มีฝีมือให้ไปสู่เวทีของมืออาชีพ รวมถึงเป็นการสร้างความเข้าใจและยอมรับของสังคม ต่อผู้ที่อยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติว่ามีศักยภาพ และสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ หากได้รับโอกาสจากสังคม ซึ่งเป็นความร่วมมือแบบครบวงจร ระหว่างหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งคืออาสาสมัครคุมประพฤติ เพื่อส่งเสริมนโยบายสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคม

โดยผู้เข้าแข่งขันได้ส่งผลงานอาหารคาว และอาหารหวานมาร่วมประชันกันทั้งหมด 8 จังหวัด ประกอบด้วย สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดราชบุรี ส่งเมนู “พิซซ่าราชา” และ “BANANA ละมุน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร ส่งเมนู “บาบีคิว บาบีใจ” และ “บัวลอย 5 สี”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรี ส่งเมนู “กุ้งราดซอสมะขามเมี่ยงสมุนไพร” และ “ปลากริมไข่เต่าโตนดหวาน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครปฐม ส่งเมนู “สายทองล่องลอย” และ “สำรับไทย”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุพรรณบุรี ส่งเมนู “ต้มข่าปลาสลิด” และ “บัวลอยมณีแก้วพาเพลิน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเมนู “แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปู กับใบชะพลูกรอบ” และ “กล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (สาขาหัวหิน) ส่งเมนู “แกงหลอก” และ “สามสหายหน้าขาว”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสงคราม ส่งเมนู “ชลจรสะบัดนาง” และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาญจนบุรี ส่งเมนู “มณีลงสรง” และ “กระทงจิ๋วซ่อนจี๊ด” โดยแต่ละทีมต้องทำเมนูให้น่ารับประทาน ทั้งหน้าตา รสชาติ ความสะอาด พร้อมนำเสนอผลงาน และหลักการตลาดที่ต้องสร้างรายได้และกำไรได้จริง

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดราชบุรี ส่งเมนู “พิซซ่าราชา” และ “BANANA ละมุน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร ส่งเมนู “บาบีคิว บาบีใจ” และ “บัวลอย 5 สี”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรี ส่งเมนู “กุ้งราดซอสมะขามเมี่ยงสมุนไพร” และ “ปลากริมไข่เต่าโตนดหวาน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครปฐม ส่งเมนู “สายทองล่องลอย” และ “สำรับไทย”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุพรรณบุรี ส่งเมนู “ต้มข่าปลาสลิด” และ “บัวลอยมณีแก้วพาเพลิน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเมนู “แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปู กับใบชะพลูกรอบ” และ “กล้วยบวชชีมะพร้าวอ่อน”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (สาขาหัวหิน) ส่งเมนู “แกงหลอก” และ “สามสหายหน้าขาว”, สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสงคราม ส่งเมนู “ชลจรสะบัดนาง” และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาญจนบุรี ส่งเมนู “มณีลงสรง” และ “กระทงจิ๋วซ่อนจี๊ด” โดยแต่ละทีมต้องทำเมนูให้น่ารับประทาน ทั้งหน้าตา รสชาติ ความสะอาด พร้อมนำเสนอผลงาน และหลักการตลาดที่ต้องสร้างรายได้และกำไรได้จริง

ส่วนทีมที่ชนะเลิศ เป็นตัวแทนสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 เข้าแข่งขันในระดับประเทศ เมนูอาหารคาว ได้แก่ “แกงคั่วสับปะรดกรรเชียงปู กับใบชะพลูกรอบ” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเมนูอาหารหวาน ได้แก่ “บัวลอย 5 สี” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนอันดับรองลงมา แบ่งเป็น เมนูอาหารคาว ได้แก่ อันดับที่ 2 “บาบีคิว บาบีใจ” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร และอันดับที่ 3 “แกงหลอก” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ (สาขาหัวหิน), เมนูอาหารหวาน ได้แก่ อันดับที่ 2 “บัวลอยมณีแก้วพาเพลิน” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุพรรณบุรี และอันดับที่ 3 “สายทองล่องลอย” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครปฐม

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *