
เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เผยยังไม่ได้รับการติดต่อจาก “พระมหาทิวากร” เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท หลังมีรายชื่อเส้นทางการโอนเงิน “สีกากอล์ฟ” ชี้หากไม่ได้กระทำการเป็นปาราชิก ขอให้กลับมาพิสูจน์ความจริง
จากกรณีตำรวจ บก.ปปป. ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี กับพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป หลังจากเจอภาพ และคลิปในโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึดมาได้ว่า มีภาพและคลิปมากกว่า 80,000 ภาพ ต่อมามีการเปิดเผยว่า พระมหาทิวากร ดีไพร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ตกเป็นหนึ่งใน 12 พระภิกษุสงฆ์ที่มีรายชื่อเส้นทางการโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ โดยระบุบัญชีตั้งแต่ปี 2565-2568 โอนให้สีกากอล์ฟ 1,176,740 บาท / สีกากอล์ฟโอนให้ 357,500 บาท ล่าสุดวานนี้ (10 ก.ค. 2568) ซึ่งเป็นวันอาสาฬหบูชา ทางวัดใหญ่จอมปราสาท ต้องยกเลิกพิธีเวียนเทียนกะทันหัน ส่วนพระมหาทิวากรได้หายตัวไปก่อนหน้านี้ พร้อมออกจากไลน์กลุ่มวัด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ค. 2568 พระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร (จจ.) เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เปิดเผยถึงกรณีของเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ โดยกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนรับทราบเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งภายหลังที่เกิดกรณีตามที่ปรากฏหน้าสื่อ ก็ตั้งใจว่าภายหลังจากเทศกาลเข้าพรรษาผ่านพ้นไป ก็จะเรียกประชุมพระสังฆาธิการทั้งจังหวัด เพื่อหารือถึงกรณีที่เกิดขึ้นและวางแนวทางที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น แม้ปัจจุบันนี้จะสั่งการให้ทุกวัดแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายทุก 2 เดือนแล้ว
ส่วนความเคลื่อนไหวของเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาทนั้น ตนไม่ทราบว่าขณะนี้ท่านไปอยู่ที่ใด เพราะไม่ได้รับการติดต่อจากท่านเลย มีเพียงบุคคลใกล้ชิดโทรศัพท์มาบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตนฟัง แต่ไม่ลึกมากนัก โดยบอกแค่ว่า เมื่อ 2 วันก่อน พระมหาทิวากร ท่านมีชื่อเกี่ยวโยงกับเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ และได้ออกจากวัดใหญ่จอมปราสาทไปแล้ว แต่ไม่มีใครทราบว่าท่านไปพักที่ใด หรือไปทำกิจใด ซึ่งส่วนตัวแล้วตนมองว่า พระมหาทิวากรนั้นเป็นพระที่มีอัธยาศัยดี ช่วยเหลืองานของสงฆ์เป็นอย่างดีเสมอมา โดยเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ ที่ท่านจะเป็นพระพิธีกรในงานพิธีการที่มีการประชุมพระสงฆ์ของจังหวัด ส่วนปัญหาส่วนตัวท่านนั้น เท่าที่พอทราบผ่านมานานกว่า 2 ปีแล้ว คือ ท่านเคยขอยืมเงินพระภิกษุสงฆ์ด้วยกัน จนทำให้มีผู้มาร้องขอให้กล่าวตักเตือนท่าน ซึ่งอาตมาก็ได้เรียกท่านมาพูดคุยตักเตือน จากนั้นก็ไม่มีปัญหาใด ๆ อีกเลย กระทั่งมาทราบเรื่องเมื่อเย็นวานนี้
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ตนมองว่าเกิดจากความหย่อนยาน หากทุกคนพึงรู้ในหน้าที่ของตนเอง พระสงฆ์รู้ในหน้าที่ของสงฆ์ที่พึงกระทำและไม่พึงกระทำ ฆราวาสพึงรู้หน้าที่พึงกระทำหรือไม่พึงกระทำ ก็จะไม่มีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้น ดังนั้นจึงอยากฝากเตือนทั้งคณะสงฆ์และผู้ที่อยู่ทางโลกทุกคนว่า จงมีสติในการกระทำทุกอย่าง พึงรู้หน้าที่ของตนเอง และที่สำคัญคือ การกระทำของคนบางคนอาจจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียของคนกลุ่มใหญ่ จึงต้องการให้ทุกท่านพึงตัดสินที่การกระทำของแต่ละคน อย่าเหมารวม ทุกคนต้องร่วมกันสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป และต้องร่วมกันทำให้สังคมนี้เป็นสุขอย่างยั่งยืน แล้วสถาบันสำคัญชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะพึงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป
เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้ายว่า หากพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท เชื่อมั่นว่าตนเองนั้น ไม่ได้กระทำการอันเป็นปาราชิก ก็ขอให้กลับมาพิสูจน์กับความเป็นจริง สู้กับสิ่งที่เผชิญอยู่ในตอนนี้ กลับมาพิสูจน์เส้นทางการเงินให้สังคมได้รับทราบ

พระมหาทิวากร ดีไพร
สำหรับประวัติ พระมหาทิวากร ดีไพร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ฉายา อาภทฺโท อายุ 59 ปี เป็นครูสอนบาลี มีวุฒิการศึกษาทางธรรมเป็นนักธรรมเอก สอบได้เมื่อปี 2532 ส่วนเปรียญธรรม 9 สอบได้ปี 2544 และได้รับปริญญาเอกเมื่อปี 2560 จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ